กระต่ายตัวจ้อยที่ตำรวจคนอื่นมองข้าม แต่เธอมองโลกในแง่ดีและทำหน้าที่ตัวเองจนประสบความสำเร็จ
เด็กชายธรรมดาที่ช่วยเหลือคนอื่นจนเข้าตาฮีโร่อันดับหนึ่งของโลก
พ่อม่ายวัยเกษียณที่กลับมาฝึกงานพร้อมจิตใจแสนอบอุ่น ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากทุกคน
หลายครั้งที่เราดูหนัง อ่านหนังสือ ตัวละครเอกหลายเรื่องมักเริ่มจากการเป็นคนไม่เก่งนัก แต่มีพลังแฝงบางอย่างที่ทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย บ้างเป็นพลังคิดบวก พลังมุ่งมั่น หรือการช่วยเหลือคนอื่นด้วยความจริงใจ กระทั่งได้รับความช่วยเหลือเป็นรางวัลตอบแทน
สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเหมือนเรื่องแต่งที่ผู้สร้างเขียนบทขึ้นมาเพื่อความแฟนตาซี แต่ในโลกความเป็นจริงพลังเหล่านี้ล้วน “มีอยู่จริง” ในตัวทุกคน ผ่าน Mindset ที่เปรียบเสมือนเลนส์ที่ใช้มองโลกซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการแสดงพฤติกรรมของคนเรานั่นเอง โดยเฉพาะมุมมองแบบ Outward Mindset หรือการที่เรามองคนอื่นสำคัญไม่น้อยกว่าตนเอง และเชื่อว่าเป้าหมายของคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน
ลองมาสำรวจพลัง Outward Mindset เพื่อทำความเข้าใจตัวละคร ว่าพลังความคิดบวกจะพาคนรอบข้างมีพลังไปด้วยกันได้อย่างไร
Zootopia – กระต่ายน้อยผู้ไม่เคยยอมแพ้
จูดี้ ฮอปส์ มือปราบสาวตัวเล็กที่ถูกเมินในเหล่าตำรวจด้วยกัน เธอต้องเข้ามาสะสางคดีและร่วมตามหาความจริงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจิ้งจอกนิค
ด้วยสายที่มองโลกด้วยความเข้าใจ และดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ทำให้เธอยึดมั่นในการพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด นั่นคือหน้าที่การช่วยเหลือผู้อื่นแม้ว่าเธอจะต้องตกที่นั่งลำบากก็ตาม เธอจึงทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ จนพัฒนาความสามารถแซงเพื่อนร่วมรุ่นทุกคน
การช่วยเหลือคนอื่นจึงเป็นมองเห็น “ใจเขาใจเรา” ที่เป็นนิสัยติดตัวของเธอ และนั่นคือเคล็ดลับความสำเร็จของกระต่ายน้อยตัวนี้
My Hero Academia – เด็กธรรมดาสู้ฮีโร่มืออาชีพ
มิโดริยะ อิซึคุเป็นเด็กมัธยมต้นธรรมด๊าธรรมดา ที่มีความใฝ่ฝันการเป็นฮีโร่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยมีออลไมท์เป็นดั่งไอดอลของเขา
จุดเปลี่ยนของเขาคือวันหนึ่งมิโดริยะพยายามช่วยเหลือเพื่อนสมัยเด็ก ทำให้ออลไมท์เห็นความเป็นฮีโร่และวางตัวเขาเป็นผู้สืบทอดพลัง ‘วัน ฟอร์ ออล’ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มิโดริยะจึงได้กลายเป็นนักเรียนไร้อัตลักษณ์คนแรกที่สามารถสอบเข้าโรงเรียนฮีโร่ได้สำเร็จ
หากวันนั้นเขาไม่คิด “ช่วยเหลือคนอื่น” เส้นทางฮีโร่ของเขาก็คงไม่มีวันเป็นจริง
The Intern คุณปู่ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย
เบน วิทเทคเคอร์ พ่อม่ายวัย 70 ปี เขาเบื่อกับชีวิตเกษียณจึงกลับมาลงสนามการทำงานอีกครั้ง เป็นพนักงานฝึกงานอาวุโสที่เว็บไซต์แฟชั่นซึ่งก่อตั้งและดำเนินงานโดยประธานสาว จูลส์ ออสติน
ความที่เบนเก๋าเกมกับประสบชีวิต ทำให้เขากลายเป็นที่ปรึกษาทางชีวิตให้กับท่านประธานสาว เบนคอยรับฟังปัญหาของเธอทั้งยังเป็นผู้ฟังที่ดีอีกด้วย หนังเต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารักๆ ง่ายๆ เช่น การที่เบนให้ยืมผ้าเช็ดหน้าตอนที่จูลส์ร้องไห้ หรือการนำเสนอแนวคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต ทำให้จูลส์สงบจิตสงบใจลง
ขณะเดียวกันในสถานที่ทำงาน เบนเองก็ทำหน้าที่ช่วยเหลือคนอื่นทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ทำให้ทีมงานที่เคยแตกคอกันเริ่มประสานรอยร้าว จนชีวิตและการทำงานของทุกคนประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
เคล็ดลับความสำเร็จคือการมองโลกแบบ Outward Mindset
หากสังเกต จุดร่วมอย่างหนึ่งของตัวเอกทั้งหมดที่เรายกตัวอย่างมา คือการมองโลกในแบบที่เข้าใจทั้ง “ตัวเอง” และ “ผู้อื่น” ผ่าน Outward Mindset หรือการมองคนอื่นสำคัญไม่น้อยกว่า เหตุนี้ตัวเอกทั้งหมดจึงคิดหาทางช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ให้ “ทีม” ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
สอดคล้องกับงานวิจัยของ ดร. เทอรี่ วอร์เนอร์ (Dr. Terry Warner) อาจารย์นักวิจัยด้านจิตวิทยาผู้ก่อตั้งสถาบัน Arbinger Institute ประเทศสหรัฐอเมริกาที่บ่งชี้ว่า มนุษย์เรามีการกำหนด Mindset ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
Inward Mindset หรือการมองที่เป้าหมายของตนเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นคุณค่าเเละความสามารถของคนอื่น คนอื่นเป็นเพียงส่วนประกอบในการทำงานของตนให้ประสบความสำเร็จเท่านั้น
และ Outward Mindset ที่มองคนอื่นสำคัญไม่น้อยกว่าตัวเรา โดยมองถึงเป้าหมายรวมของทีมเป็นสำคัญ ทุกคนต่างต้องปรับตัวเข้าหากันเพื่อทำให้งานสำเร็จลุล่วง
จากการวิจัยจึงสรุปได้ว่า การปรับเปลี่ยน Mindset นั้นเปรียบเสมือนการปรับเปลี่ยนเลนส์ในการมองโลก มองตัวเอง และมองคนอื่น ซึ่งจะนำมาสู่ความสมานฉันท์ที่ทำให้ตัวเราสามารถใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ และการทำงานได้อย่างเป็นสุข และที่สำคัญจากงานวิจัยยังพบว่าคนที่มี Outward Mindset จะดึงดูดคนอื่นให้เป็น Outward Mindset ด้วยเช่นกัน เหมือนการสร้างพลังบวกให้คนรอบข้าง
เพื่อความสำเร็จเป็นทีมกับโปรแกรมเรียน Outward Mindset จาก SEAC
SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน เห็นความสำคัญของ Outward Mindset จึงนำหลักสูตรนี้เข้ามาสอน ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
Outward Mindset จะเปลี่ยนมุมมองจากเลนส์ของตัวเอง มาเป็นการมองผ่านเลนส์ใหม่ในมุมของคนอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราเห็นเรื่องราวที่แตกต่าง และเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาเพื่อความสำเร็จแบบองค์รวมมากขึ้น โดยเฉพาะระดับองค์กร ที่หากองค์กรใดสามารถปรับเลนส์ในการมองตั้งแต่ระดับผู้บริหารเรื่อยมาจนถึงพนักงานในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว องค์กรนั้นก็จะสามารถหาทาง “รอด” ด้วยการเปลี่ยน Mindset ยกทีม, พัฒนาการทำงานแบบหมู่คณะ และพัฒนาศักยภาพทีมงานทุกคน สู่การขับเคลื่อนในยุค 4.0 ที่เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
ปรับมุมคิด พลิกมุมมอง ปลดล็อคศักยภาพ เพื่อเปลี่ยนสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้ที่ Seasiacenter
อ้างอิงข้อมูลจาก