เคยมีคนกล่าว หากต้องการเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองนั้นๆ ให้เลือกเดินตลาดชุมชน แต่หากอยากรู้วิธีคิดและอารยธรรม ต้องไปชมที่พิพิธภัณฑ์
ข้อความดังกล่าวอาจจะใช้ไม่ได้กับประเทศในแถบบ้านเราที่รัฐบาลยังมองพิพิธภัณฑ์ในฐานะโกดังเก็บโบราณวัตถุแค่แง่มุมเดียว ยกเว้นก็แต่ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาะขนาดเล็กที่เพิ่งมีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเองมาไม่ถึงร้อยปีมานี้ นี่คือประเทศที่ไม่เพียงมีพิพิธภัณฑ์หลากแขนงที่มีระบบการจัดการติดอันดับต้นๆ ของโลก หากยังเปลี่ยนความคิดของผู้คนว่าการมาเดินพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ความน่าเบื่อ แต่เป็นความสนุก – สนุกจนนักท่องเที่ยวหลายคนลิสต์ให้พิพิธภัณฑ์ข้างล่างเหล่านี้เป็นแลนด์มาร์คที่ต้องไปเช็คอินหากได้มาสิงคโปร์
National Museum of Singapore (NMS)
ตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ด้านสัตวศาสตร์และพฤกษศาสตร์ ภายในสถาปัตยกรรมทรงนีโอคลาสสิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1849 แม้นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ หาก NMS ก็ฉีกภาพจำเดิมๆ ของ ‘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ’ ที่เราคุ้นเคยไปจนสิ้น เพราะถึงแม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์และการสร้างชาติ หากทั้งสื่อมัลติมีเดียที่นำมาใช้เล่าเรื่อง การลำดับเรื่องให้เหมือนการตัดต่อภาพยนตร์ รวมถึงวัตถุจัดแสดงและการออกแบบภายใน กล่าวได้ว่า NMS ถือเป็นแถวหน้าของพิพิธภัณฑ์แนวประวัติศาสตร์ของโลกได้สบาย
นอกจากนี้การใช้ประโยชน์จาก ‘หอทรงกลม’ (Rotunda) ที่เปิดให้ผู้มาเยือนเริ่มเดินเข้าพิพิธภัณฑ์จากชั้นบนสุดของหอทรงกลม และเดินลงบันไดวนมาเรื่อยๆ จนถึงโซนนิทรรศการถาวร
ก็ทำให้พิพิธภัณฑ์สร้างลูกเล่นได้หลากหลาย เช่นการฉายวิดีโอบอกเล่าถึงรากกำเนิดของประเทศผ่านผนังทรงกลมที่โอบรอบตัวเรา หรือล่าสุด NMS ยังจับมือกับ teamLab กลุ่มศิลปินดิจิทัลชื่อดังจากญี่ปุ่น มารังสรรค์นิทรรศการภาพเคลื่อนไหวจำลองป่าดิจิทัลภายในผนังของหอทรงกลม เก๋ไก๋เกินหน้าพิพิธภัณฑ์ของรัฐทั่วไปเลยทีเดียว
www.nationalmuseum.sg
National Gallery of Singapore
นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ฉายภาพแวดวงศิลปะร่วมสมัยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รอบด้านที่สุด ในระดับที่ว่าหากคุณเพิ่งสนใจแวดวงศิลปะร่วมสมัยไทย แล้วอาจสงสัยว่างานมาสเตอร์พีชของศิลปินไทยไปจัดแสดงที่ไหนหมด ก็แนะนำให้บินมาดูที่นี่ ไล่เรียงตั้งแต่ เฟื้อ หริพิทักษ์, มณเฑียร บุญมา, ถวัลย์ ดัชนี, อารยา ราษฎร์จำเริญสุข, คามิน เลิศชัยประเสริฐ ฯลฯ ซึ่งผลงานพวกเขาล้วนจัดแสดงในนิทรรศการถาวร เคียงข้างไปกับผลงานของศิลปินร่วมสมัยท่านอื่นๆ ที่ต่างสะท้อนภาพสังคม การเมือง และประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศในอาเซียนผ่านออกมาทางงานศิลปะได้อย่างเฉียบคม
หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ตั้งอยู่ในอาคารของศาลกลางและศาลฎีกาเก่า โดยบูรณะแบบต่อเชื่อมสองอาคารเข้าด้วยกัน ภายในมีด้วยกัน 5 ชั้น ชั้นล่างสุดที่เป็นศูนย์ศิลปะสำหรับเด็ก ขณะที่ชั้น 2-4 จัดแสดงผลงานศิลปะในทุกแขนง ชั้น 5 เป็นนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ ส่วนชั้น 6 เป็นโซนของร้านอาหารและบาร์ที่มีระเบียงชมทิวทัศน์ของมารีน่าเบย์แบบเก๋ๆ อีกด้วย ความเจ๋งอีกเรื่องคือนี่คือหอศิลป์ที่มีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้มีนิทรรศการของศิลปินระดับโลกหลายรายมาจัดแสดงหมุนเวียนกันไม่เว้น อาทิ Yayoi Kusama หรืองานอิมเพรสชันนิสม์ระดับมาสเตอร์พีชที่ยืมมาจาก Musee D’ Orsay จากปารีส เป็นต้น www.nationalgallery.sg
ArtScience Museum
แตกต่างจากสองพิพิธภัณฑ์แรกที่เป็นของรัฐ ArtScience Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทยาศาสตร์) ตั้งอยู่ในอาคารทรงปะการังสุดล้ำริมอ่าวมารีน่า เป็นส่วนหนึ่งของ Integrated Resort เจ้าดังอย่าง Marina Bay Sands นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นสื่อหลักได้อย่างเปี่ยมสีสันและสุดสร้างสรรค์ เป็นภาพแทนของพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ได้ดี คือได้ทั้งความตื่นตาตื่นใจ สุนทรียะในเชิงศิลปะ และมีเนื้อหาที่ชวนให้คิดต่อด้วย
ลองไล่ดูชื่อนิทรรศการหมุนเวียนที่มาจัดแสดงก็ได้; Future World ของ teamLab จากโตเกียว, Minimalism: Space. Light. Object. (ที่ใช้ที่ว่างและเทคนิคแสงและสีบอกเล่าถึงความมินิมัลในเชิงศิลปะ), All Possible Paths (นิทรรศการที่ใช้สื่อมัลติมีเดียบอกเล่าวิธีคิดและชีวิตของ Richard Feynman) เป็นต้น หากถามว่าพิพิธภัณฑ์แห่งโลกสมัยใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร หรือสวนสนุกที่ก้าวล้ำไปไกลกว่าจินตนาการแฟนตาซีหน้าตาเป็นแบบไหน ArtScience Museum น่าจะช่วยให้มองเห็นภาพได้ดีขึ้น
www.marinabaysands.com/museum.html
Singapore City Gallery
ตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ Singapore City Gallery หรือพิพิธภัณฑ์เมืองสิงคโปร์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานผังเมืองและวางแผนเมืองของรัฐบาลสิงคโปร์ พิพิธภัณฑ์แสดงกายภาพเมือง รวมไปถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา โครงการพัฒนาต่างๆ เช่นระบบขนส่งมวลชน สวนสาธารณะ ฯลฯ ผ่านโมเดลจำลอง สื่อมัลติมีเดีย และอินเตอร์แอคทีฟ ฯลฯ ไฮไลท์ของมิวเซียมคือโมเดลจำลองแผนผังของย่านใจกลางเมืองสิงคโปร์ และพื้นที่ที่จะมีการขยาย (ด้วยการถมทะเล) ในอนาคต รวมถึงภาพวาดภูมิทัศน์เมืองของ Stephen Wiltshire ศิลปินชาวอังกฤษผู้เป็นออทิสติก หากสามารถวาดภาพเมืองสิงคโปร์ทั้งเมืองลงบนผนังอาคารทั้งผนังได้จากการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมเมืองเพียงรอบเดียว! นี่ถือเป็นมิวเซียมที่เผยให้เห็นวิสัยทัศน์ของการสร้างเมืองตั้งแต่อดีตไปถึงอนาคต ซึ่งเปิดให้คนสิงคโปร์ด้วยกันเองเห็นด้วยว่าแผนการพัฒนาต่อๆ ไปจะมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขาในย่านใดบ้างและอย่างไร พร้อมไปกับการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ยลว่าหน่วยงานรัฐมีวิธีการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่เมืองและพื้นที่สีเขียวอย่างไรให้ประเทศเกาะเล็กๆ ประเทศนี้มีความน่าอยู่เช่นทุกวัน www.ura.gov.sg/Corporate/Singapore-City-Gallery
4 พิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่อง ‘คนสิงคโปร์’
ความที่สิงคโปร์ประกอบไปด้วย 4 ชาติพันธุ์หลัก ได้แก่ จีน, มาเลย์, เปอรานากัน และอินเดีย แต่ละชาติพันธุ์นอกจากมีย่านที่มีอัตลักษณ์ชุมชนเฉพาะของตนเอง พวกเขายังมีมิวเซียมที่บอกเล่าที่มาและวิถีชีวิตของผู้คนในชาติพันธุ์นั้นๆ อย่างน่าสนใจ เริ่มจาก Chinatown Heritage Center ที่ตั้งอยู่ในตึกแถวย่านไชน่าทาวน์ จำลองวิถีชีวิตของพ่อค้าชาวจีนในย่านผ่านสถาปัตยกรรมดั้งเดิม (แต่ได้รับการบูรณะ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนจีนที่อพยพมาที่นี่แต่เดิม อยู่ในบ้านแบบไหน กิน อยู่ และจัดการกับที่พักอาศัยและเงื่อนไขทางสังคมอันจำกัดอย่างไร Malay Heritage Center เชื่อมร้อยกับเส้นทางชมแหล่งประวัติศาสตร์มาเลย์และชาวมุสลิมในย่าน Kampong Glam ส่วน Peranakan Museum ตั้งอยู่ในคฤหาสน์หลังงามแบบฉบับคนเปอรานากัน (จีนผสมมาเลย์) ที่บอกเล่าอัตลักษณ์ของคนเปอรานากันอย่างรอบด้าน และ Indian Heritage Center คือพิพิธภัณฑ์เดินเพลินที่พูดถึงคนอินเดียในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมสร้างประเทศสิงคโปร์ในยุคต้น โดยพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารดีไซน์ล้ำในย่าน Little India
นอกจากนี้สิงคโปร์ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่ต้องไม่พลาด อาทิ Asian Civilisation Museum พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุหายากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Singapore Art Museum, พิพิธภัณฑ์แห่งการออกแบบ Red Dot Design Museum รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ของเล่น Mint Museum of Toy
ส่วนสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ที่ก้าวล้ำและสร้างสรรค์ ก็เพราะการที่ภาครัฐเห็นถึงความจำเป็นของการอนุรักษ์และปลูกฝังองค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่ ทำให้สิงคโปร์มีหน่วยงานที่ชื่อว่า National Heritage Board (www.nhb.gov.sg) และ National Art Council (www.nac.gov.sg) ที่มาดูแลมิวเซียมของรัฐ และกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน ตามลำดับ ขณะเดียวกันในภาคเอกชนก็ยังมีกลุ่ม Friends of the Museums (www.fom.sg) กลุ่มอาสาสมัครและเครือข่ายภาคประชาชนที่ร่วมประสานงาน จัดหาทุน รวมไปถึงการวิจัยและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ร่วมกับเครือข่ายในต่างประเทศ ส่วนภาคธุรกิจเองก็ต่างเห็นว่าในประเทศที่รัฐบาลให้การศึกษาอย่างทั่วถึงและผลักดันให้คนรุ่นใหม่กระหายในความรู้และความคิดสร้างสรรค์ การสร้างพิพิธภัณฑ์ดีๆ มารองรับ จึงเป็นจุดขายสำคัญอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศเล็กๆ ที่มีประวัติศาสตร์ไม่ยาวนานเท่าใดนักประเทศนี้ จึงเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ ที่แม้คุณจะไม่ใช่นักเดินมิวเซียม ก็ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งถ้ามาที่นี่
นอกจากเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แล้วสิงคโปร์ยังมีนิทรรศการศิลปะให้ได้ชม อย่าง Singapore Design Week ที่มีประจำทุกปี สำหรับปี 2019 นี้สิงคโปร์จะจัดขึ้นในวันที่ 4 – 17 มีนาคม แบบนี้ก็อย่าลืมจองตั๋วเที่ยวทั้งงานนิทรรศการและชมพิพิธภัณฑ์ไปพร้อมกัน