พอย่างเข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัวแบบนี้ ใครหลายคนก็คงจะเริ่มมองหาสถานที่เที่ยวคลายร้อนพักผ่อนหย่อนใจกันบ้างแล้ว และแน่นอนว่า ตัวเลือกแรกในใจของคนส่วนใหญ่ คงจะหนีไม่พ้น “หัวหิน” เมืองริมทะเลท็อปฮิตติดชาร์ทสำหรับทริปหนีเมืองกรุงแบบสั้นๆ ไปสัมผัสบรรยากาศทะเลด้วยราคาสบายกระเป๋า
เสน่ห์ของชายหาดที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และรสชาติอร่อยลิ้นของอาหารซีฟู้ดสดจากทะเล น่าจะเป็นสิ่งที่คนคิดถึงลำดับแรกๆ หากเอ่ยคำว่าหัวหิน แต่จริงๆ แล้ว เมืองเล็กๆ เมืองนี้ ยังมีอีกหลากหลายความน่าสนใจที่ใครหลายคนมองข้ามไป ทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรือ อาหารท้องถิ่น ที่รอให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้สัมผัส
มารู้จักกับเสน่ห์หัวหินที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง ซึ่งดึงดูดให้คนจากทั่วทุกสารทิศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันต้องมาพักตากอากาศกันที่เมืองนี้ไปด้วยกัน รับรองว่า ถ้าได้รู้ ทริปหัวหินครั้งต่อไป ต้องจอยกว่าเดิมแน่นอน
ถ้าเราเหนื่อยล้า บางครั้งอาจจะไม่ต้องเดินเข้าป่า แค่หลบจากความวุ่นวายมานั่งฟังเสียงคลื่นเบาๆ ริมทะเล ให้ความขุ่นข้องหมองใจสลายไปก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับหัวหินแล้ว ไม่มีสถานที่ไหนที่จะพาให้เราหนีความกังวลใจไปได้ไกลกว่า วังไกลกังวล พระตำหนักติดชายทะเลที่มีอายุกว่า 89 ปี
วังไกลกังวลประกอบด้วย 4 พระตำหนักชื่อคล้องจองที่แค่ได้ฟังก็รู้สึกหายกังวลใจแล้ว อย่าง เปี่ยมสุข ปลุกเกษม เอิบเปรม เอมปรีย์ พระตำหนักนี้จะหันหน้าออกสู่ทะเล สร้างขึ้นด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่ดัดแปลงให้เหมาะกับอากาศร้อนแบบบ้านเรา ถ้าใครอยากแวะเวียนไปสัมผัสความงามติดทะเลนี้ สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น.
แต่ด้วยมนต์สเน่ห์ของหัวหิน ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็รู้สึกไกลกังวลได้ทุกที่ ทุกเวลา แค่ลองใช้เวลาสักหนึ่งวัน สัมผัสบรรยากาศดีๆ ตัั้งแต่เช้าจรดค่ำ นั่งมองคลื่นซัดชายหาด คุยกับคนท้องถิ่นผู้อารีย์ ดื่มด่ำกับอาหารแสนอร่อยเคล้าแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปล่อยใจให้เอนจอยกับเมืองตากอากาศสุดพิเศษนี้ เพียงเท่านี้ก็ได้รู้สึกไกลกังวล พร้อมเติมรอยยิ้มและความสุขให้กลับมาเต็มถังอีกครั้ง
ถึงหัวหินจะได้รับการอัพเกรดจากการเป็นกิ่งอำเภอมาเป็นอำเภอในวันที่ 12 เมษายน 2492 แต่ชื่อเสียงเรียงนามของหัวหินในฐานะสถานที่พักตากอากาศเลื่องชื่อของประเทศไทยนั้น โด่งดังข้ามสมัยมาตั้งนานก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการมาถึงของการคมนาคมสุดคลาสสิคอย่าง “รถไฟ”
จุดเริ่มต้นความฮอตฮิตของหัวหินในฐานะแหล่งแฮงค์เอาท์ริมทะเลมาจากการสร้างทางรถไฟสายใต้ สถานีชะอำ – หัวหิน เมื่อปี 2454 ทำให้คนจากกรุงเทพฯ สามารถนั่งรถไฟจากธนบุรีมาถึงหัวหินได้แบบต่อเดียวถึง ดังนั้น แทนที่จะต้องนั่งเรือออกอ่าวไทยไปตากอากาศกันไกลถึงเกาะสีชัง ขุนนาง ชนชั้นสูง และ เชื้อพระวงศ์ จึงเปลี่ยนมาจับรถไฟมาพักผ่อนริมชายหาดกันที่หัวหินแทน เพราะความสะดวกในการเดินทางและความสวยงามของชายหาด
จากนั้นมา หัวหินก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทางรถไฟสายใต้สร้างเสร็จสมบูรณ์ เชื่อมหัวหินเข้ากับชายแดนของมาเลเซียได้สำเร็จ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาพักตากอากาศที่หัวหินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ตกปลา ว่ายน้ำชมบรรยากาศ หรือ ตีกอล์ฟ ที่สนามหัวหินรอยัลกอล์ฟ สนามกอล์ฟมาตรฐานสากลแห่งแรกของไทย
ถ้ารู้สึกว่าเสน่ห์ความงามตามธรรมชาติของชายหาดหัวหินยังไม่ใช่ทาง ขอแนะนำชาวสายอาร์ตได้ลองเที่ยวชมบรรยากาศศิลปะและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่กระจายอยู่ทั่วเมืองซึ่งตกทอดมาจากเมื่อครั้งหัวหินยังเป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงในอดีต
แลนด์มาร์กสำคัญประจำเมืองที่ทุกคนต้องไปขอถ่ายรูปคู่คือ สถานีรถไฟหัวหิน เจ้าของฉายาสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย เป็นสถานีครึ่งตึกครึ่งไม้ที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียน และยังคงได้รับการอนุรักษ์ให้งดงามดังเช่นวันแรก และใกล้ๆ กันนั้น ก็ยังมี พลับพลาพระมงกฏเกล้าฯ พลับพลาแบบจตุรมุขที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับขึ้นรถไฟของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้ได้เยี่ยมชมอีกด้วย
อาคารงามๆ ในเมืองหัวหินยังมีให้แวะเวียนได้ไปสัมผัสอยู่อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ตลาดฉัตรชัยกับสถาปัตยกรรมหลังคารูปโค้งครึ่งวงกลมต่อเนื่อง 7 โค้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 หรือ โรงแรมรถไฟหัวหิน (ปัจจุบันคือโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์หัวหินรีสอร์ทแอนด์วิลล่าส์) ที่มาพร้อมกับความงามด้านสถาปัตยกรรมแบบยุโรป และครั้งหนึ่งยังได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงแรมตากอากาศที่หรูที่สุดในอาเซียน
ใครว่าหัวหินนั้นมีแต่ชายหาด เพราะหากลองนับนิ้วไล่เรียงกันจริงๆ แล้ว เมืองแห่งการพักผ่อนหย่อนใจเมืองนี้มีหลากหลายกิจกรรมที่ตอบทุกโจทย์ เติมเต็มทุกความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์การเที่ยวอย่างแท้จริง
เริ่มที่สายรักธรรมชาติ ชายหาดของเมืองหัวหินแต่ละที่ก็มีเสน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน ชายหาดหัวหิน เหมาะแก่การเล่นน้ำ เดินเล่นรับลมทะเลกับทรายขาวละเอียด หาดเขาตะเกียบ เน้นความสงบ นอนฟังเสียงคลื่นแบบชิลๆ หรือ จะลองชายหาดเขาเต่าสุดลึกลับที่ต้องเดินผ่านเข้ามาจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รับประกันได้ถึงความเงียบสงบอย่างแท้จริง
ส่วนสายช็อปก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะหัวหินอุดมไปด้วยตลาดให้เลือกจับจ่ายมากมาย ทั้งตลาดศิลปะ ตลาดน้ำย้อนยุค ไปจนถึงตลาดยุโรปสุดชิค หรือ ถ้าอยากหันหน้าเข้าสู่สายเติมแต้มบุญ เดินหน้าไหว้พระเสริมศิริมงคล ก็ขอเชิญที่วัดห้วยมงคล วัดถ้ำเขาเต่า หรือ วัดเขาตะเกียบ กันได้เลยตามศรัทธา
กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด กองเที่ยวก็ต้องเดินด้วยของอร่อยฉันนั้น มาเยือนถิ่นหัวหินทั้งที จะกินแต่ซีฟู้ดธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่ เพราะหัวหินมีหลากหลายอาหารพื้นถิ่นหากินได้ยากรอให้คุณได้ไปลิ้มลองอยู่ บอกเลยว่าถ้าไม่ลองถือว่ามาไม่ถึงหัวหิน
จับไม้ ทอดมันปลาอินทรีเสียบไม้ที่เอาไปปิ้งบนเตาถ่าน หนึบหนับเคี้ยวเพลิน, ปิ้งงบ อาหารไทยเก่าแก่ผู้เป็นญาติห่างๆ ของห่อหมก ทำมาจากเนื้อปลาบดละเอียดผสมกับหัวกะทิ แล้วนำไปห่อด้วยใบตอง ย่างบนไฟอ่อนๆ หม่ำพร้อมกับขนมจีนและน้ำปลาดิบ หรือจะลองหอยเสียบปิ้งจิ้มกับน้ำจิ้มมะละกอ ของกินเล่นคนท้องถิ่นที่อาจจะเผลอกินหมดไม้โดยไม่รู้ตัว
หรือถ้าอยากชิมร้านอาหารเก่าแก่ขึ้นชื่อของหัวหิน ต้องไม่พลาด เจ๊ม่วย ซาลาเปาเตาถ่านรสหวานหอมนุ่มลิ้นที่คนมารอเข้าคิวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ ดื่มด่ำกับกาแฟโบราณในบรรยากาศอาคารไม้สุดคลาสสิค ร้านโกทิ ร้านอาหารไทยสไตล์จีนรสชาติเยี่ยมที่เปิดมาแล้วกว่า 50 ปี และอย่าลืมปิดท้ายด้วย เจ๊นิ ไอศกรีมที่ตลาดโต้รุ่ง ไอศกรีมเครื่องแน่นหลากหลายรสชาติให้ได้เลือกฟิน
อีกหนึ่งตำนานคู่ชายหาดหัวหินที่ตั้งตระหง่านต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 30 ปี คือตึกสีเหลืองเด่นที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาจะต้องหยุดมองด้วยความสวยงามแปลกใหม่ไม่มีใครเหมือนนามว่า บ้านไข่มุก
บ้านไข่มุก คือโครงการแรกบนชายหาดหัวหินของแสนสิริ บริษัทอสังหาริมทรัพย์เลื่องชื่อ เป็นคอนโดตากอากาศระดับพรีเมียมที่แพงที่สุดและดีที่สุดทั้งโลเคชั่นและการออกแบบ ณ เวลานั้น (พ.ศ. 2531) โด่งดังด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง ล้ำกว่าการออกแบบตึกของเพื่อนร่วมยุค อย่างการใช้สีเหลืองสดใส ตัดกับสีครามของน้ำทะเล ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเรือยอตช์ที่กำลังเดินทางกลับเข้าฝั่ง จนเกิดเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ พูดถึงและบอกต่อกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง
จากวันนั้นถึงวันนี้ บ้านไข่มุกก็ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กของหัวหินที่ใครๆ ก็นึกถึง ด้วยราคาขายเปลี่ยนมือที่ราคาแตะเกือบ 100 ล้านบาทต่อยูนิต จากราคาขายเดิมที่ 7 ล้านบาท
และทั้งหมดนี้คือ Joy of Huahin เสน่ห์ความจอยเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครของหัวหิน เมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ ที่รอให้ทุกคนได้เข้าไปค้นหา แต่เสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้ คือ การเป็นพื้นที่พิเศษที่ช่วยสร้างความทรงจำและความสุขจากการได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนที่คุณรัก
ไม่เชื่อลองหลับตานึกถึงตอนไปเที่ยวหัวหินกับก๊วนเพื่อนสนิทสุดแสบสมัยเรียน หรือ การพาเจ้าตัวน้อยไปสัมผัสน้ำทะเลครั้งแรกของชายหาดหัวหินดูสิ
และถ้าอยากสัมผัสความจอยในมุมใหม่ของหัวหินให้มากยิ่งขึ้น มาเจอกันได้ 31 มีนาคม – 1 เมษายนนี้ที่ งาน Joy of Huahin เอกมัย ซอย12 พร้อมงานพรีเซล La Casita คอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่สไตล์ Spanish ที่จะทำให้คุณจอยกับหัวหินได้ใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิม
แล้วมาเจอกันนะ 🙂