“แกๆ ปีใหม่แล้ว แต่ทำไมเรายังเหนื่อยเหมือนเดิมเลย”
ข้ามปีมาไม่ทันไร เราก็ได้ยินคำถามนี้ดังระงมไปทั่วประเทศ ทั้งๆ ที่ปีใหม่เราก็ต้องการชีวิตที่เฟรชสดชื่น แต่ไม่วายความอ่อนล้าจากปีก่อนก็ยังตามมาหลอกหลอนอยู่ดี
ไหนจะเป็นความเหนื่อยสะสมจากการทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือจะเป็นปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงส่งท้ายปี พวกพฤติกรรมเดิมๆ ที่ไม่เคยดูแลตัวเองเท่าไหร่เหล่านั้น ทำให้คนวัยทำงานรู้สึกอ่อนเพลียจนชีวิตพังไปแล้วหลายต่อหลายคน
เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่างวิตามินที่เปรียบเสมือนกระสุนเพิ่มพลัง โดยเฉพาะวิตามินบี 1 ที่ช่วยทำให้สมองแล่น คลายความเครียด และให้ร่างกายดีขึ้นอย่างแท้ทรู ตัวช่วยที่จะทำให้เราจะลบภาพ #คนเหนื่อย2019 ไปพร้อมกัน
เหนื่อยไหม… กับสิ่งที่ทำอยู่
อ่ะ ลองนึกถึงสภาพชีวิตประจำวันในแต่ละปีกันหน่อยว่าแสนจะเหนื่อยกันขนาดไหน
จันทร์ถึงศุกร์ต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าเพราะระบบขนส่งสาธารณะไม่เอื้อให้เราเดินทางเร็วสักเท่าไหร่ แปดโมงครึ่งก็ก้มหน้าก้มตาทำงานที่เรารัก จมจ่ออยู่กับจอคอมฯ ตรงหน้าจนลืมกินข้าวกลางวัน ตกเย็นยังไม่เสร็จก็ต้องแบกงานกลับมาปั่นที่บ้านอีก พอถึงวันศุกร์-สุดสัปดาห์ก็ใช้ชีวิตปาร์ตี้ราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้ ก่อนชีวิตจะวนลูปอินเซ็ปชั่นกลับมาเช้าวันจันทร์อีกครั้ง
ไม่แปลกใจเลยที่ผลสำรวจคนทำงานชาวอเมริกันจาก Project: Time Off และบริษัท GfK จะพบว่า คนวัยทำงานจะเป็นกลุ่ม ‘Work Martyrs’ หรือภูมิใจในการทำงานหามรุ่งหามค่ำชนิดพลีกายถวายชีพ เช่นเดียวกับรายงานจาก Bensinger, DuPont & Associates ที่บอกว่า คนทำงานอย่างเรามีประสบปัญหาสภาวะ ‘เครียด’ กับการทำงานหนักมากที่สุด
หากใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวันทุกปีล่ะก็ ความอ่อนเพลียย่อมตามมาเสมอ ทางที่ดีเราควรจะบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ก่อนที่ร่างกายจะสัญญาณเตือนออกมาว่า “ไม่ไหวแล้วจ้า”
เหนื่อยจนท้อ จะล้าอีกนานเท่าไหร่
อย่าดูถูกความพลังความโหดร้ายของความเหนื่อยล้านะเพื่อนเอ๋ย เพราะความเหนื่อยล้ามีอิทธิพลนำไปสู่โรคอื่นๆ ได้ อาทิ ออฟฟิศซินโดรม ซึ่งในทางการแพทย์เองก็บอกว่าอาการเหนื่อยล้าสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต งาน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์
หากอาการเหนื่อยล้ายังคงเกิดติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ และเกิดปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวัน เราจำเป็นต้องจัดการกับอาการเหล่านั้นให้สิ้นซาก มิฉะนั้นเราจะประสบกับอาการตื่นนอนลำบาก ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นำมาซึ่งอาการ “พัง” ไม่รู้ตัว
เธอๆ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ
“กินอาหารทุกมื้อให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับให้เพียงพอ” เป็นประโยคง่ายๆ ที่ทำได้ยากเสียเหลือเกิน เพราะทุกวันนี้คนทำงานมักโฟกัสกับแค่เรื่องงาน งาน งานและก็งาน สวนทางกับโลกที่บังคับให้เราวิ่งตามความสำเร็จพร้อมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเสมอ
ทั้งนี้ วิธีการดูแลตัวเองที่ “ง่าย” และ “ดี” ที่สุดก็คือการกินอาหารและวิตามินให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ คนทำงานจึงควรหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้สมดังประโยคคลาสิกของ ฮิปโปเครตีส บิดาแห่งวงการแพทย์ชาวกรีกที่บอกว่า “Let your food be your medicine and your medicine be your food”
ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม
ในทางวิทยาศาสตร์มนุษย์ตกอยู่ในสภาวะอ่อนล้าเพราะขาดพลังงานในเซลล์ โดยพลังงานของเราเกิดจากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตหรือกลูโคสในเซลล์ ซึ่งในกระบวนการนี้หากขาด “วิตามินบี 1” ร่างกายจึงเกิดความรู้สึกอ่อนเพลียตามมาได้
วิตามินบี จึงถูกเปรียบเป็นสารเพิ่มพลังงานให้กับเรา สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงกำลังแทบทุกชนิดจำเป็นต้องมีวิตามินนี้ผสมอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่ไม่คงทน และสามารถดูดซึมสู่ร่างกายได้น้อย หลายคนเองก็ไม่ยอมกินวิตามินเพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น ทั้งๆ ที่มันมีส่วนสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้ามากขึ้น
จะเห็นได้ว่าวิตามินบี 1 มีความสำคัญกับร่างกายมาก ทว่าวิตามินบี 1 โดยทั่วไปเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น จึงเกิดการวิจัยและพัฒนาเพื่อสังเคราะห์วิตามินบี 1 ให้มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น และสามารถผ่านเข้าสู่กล้ามเนื้อและระบบประสาท ส่งผลให้อาการเมื่อยล้าอ่อนเพลียบรรเทาลงได้อย่างแท้ทรู
ปีใหม่แล้ว ลองเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองมาการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ และเสริมสร้างการดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์ด้วยการกินวิตามินบี 1 กันบ้างนะ แล้วเราลบภาพ #คนเหนื่อย2019 เป็น #คนNice2019 ที่เจ๋งที่สุดในโลก
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิ
อ้างอิงข้อมูลจาก