หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของคนดังที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แล้วต่อสู้และรักษาตนเองจนหายเป็นปกติ
ซึ่งในแง่ของคนที่ยังไม่เคยป่วยเป็นมะเร็งอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิดไม่สามารถบอกสาเหตุการเกิดที่ชัดเจนได้ เรียกว่ามีความเสี่ยงและใกล้ตัวเราอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของเราทุกวันนี้ ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่กินเข้าไป อากาศที่หายใจ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยง ไปจนถึงสาเหตุที่หาต้นตอไม่ได้ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้ ปัจจุบันในประเทศไทย โรคมะเร็งคือสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึงแสนคนต่อปี ในขณะที่ทั่วโลกมีคนเสียชีวิตเพราะมะเร็งถึง 9.6 ล้านคนในทุกๆ ปีและมีแน้วโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ
มะเร็งนั้นใกล้ตัวกว่าที่คิด จึงควรทำความเข้าใจและป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องในวันมะเร็งโลกที่ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี จึงได้เกิดแคมเปญดีๆ อย่าง I AM & I WILL : World Cancer Day 2019 ของสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล ที่สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ผ่านบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนให้โลกใบนี้ปราศจากมะเร็งได้
มะเร็งอยู่ใกล้แค่เอื้อม
มะเร็งคือกลุ่มอาการของโรคไม่ติดต่อ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ แม้ในร่างกายเราจะมีเซลล์กว่าร้อยล้านล้านเซลล์ แต่ต้นเหตุของเซลล์มะเร็งอาจเกิดขึ้นได้จากเซลล์เล็กๆ เพียงแค่เซลล์เดียว จากการที่ร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งทำให้เซลล์ปกติแปรสภาพผิดปกติจนกลายเป็นเนื้อร้าย ก่อนจะไปทำลายเนื้อเยื่อและร่างกายในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นปอด ตับ สมอง และไขกระดูก ซึ่งถ้าอธิบายให้เห็นภาพ เซลล์มะเร็งมีคุณสมบัติในการแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับขาของปูที่แยกออกจากลำตัว จึงทำให้ ปู เป็นสัญลักษณ์ของโรคมะเร็ง คำว่า Cancer จึงมาจากภาษากรีก Carcinos ที่แปลว่า Crab นั่นเอง
ในอดีตเคยมีคนกล่าวไว้ว่า การเป็นมะเร็งนับเป็นโชคร้ายของคนที่เป็น แต่จากงานวิจัยส่วนใหญ่พบว่ากว่า 70 – 90 เปอร์เซ็นต์ของเซลล์มะเร็งเกิดจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ซึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เกิดความเสี่ยง ไม่ใช่เรื่องโชคร้ายแต่อย่างใด เพราะตั้งแต่สภาพอากาศ ฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังวิกฤตอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นต้นเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งปอด กระทั่งการสูบบุหรี่หรือมีคนใกล้ชิดที่สูบบุหรี่เองก็เช่นกัน ในเรื่องของอาหาร เช่น สารเคมีที่ปนเปื้อนตั้งแต่การเพาะปลูก การเร่งผลผลิตด้วยฮอร์โมน กรรมวิธีในการถนอมอาหาร การทำอาหารในครัวเรือน อย่างเช่น การใช้น้ำมันทอดซ้ำ พฤติกรรมการกินอาหารแบบไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์ ก็เป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมไปถึงพฤติกรรมการดื่มเหล้าสังสรรค์บ่อยๆ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งตับ การติดเชื้อที่มาจากพฤติกรรม เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ติดเชื้อไวรัสหูดหงอนไก่ ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ตรงกันข้ามกับปัจจัยความเสี่ยงทางพันธุกรรมนั้นกลับมีสัดส่วนที่น้อยกว่า
จะป้องกันและลดความเสี่ยงได้อย่างไร
แม้ว่าสาเหตุของมะเร็งระบุแน่ชัดไม่ได้ แต่ปัจจัยเสี่ยงของการมีโอกาสเป็นมะเร็งแต่ละชนิดเราเริ่มรู้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าเราไม่สนใจเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่เรามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามะเร็งจะไม่เกิดกับเรา อย่างเช่นอัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปอดของคนที่สูบบุหรี่ ด็อกเตอร์ Yusuf Hannun แห่ง Stony Brook Cancer Center ในอเมริกาเปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจว่า หากแทนความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเหมือนการเล่นรัสเซียนรูเล็ต คนที่สูบบุหรี่ได้เพิ่มกระสุนเข้าไปในลูกโม่มากถึง 3 นัดจาก 6 นัด นั่นหมายความว่าอัตราเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งก็มีมากถึง 50 เปอร์เซนต์ ทางออกที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคมะเร็ง คือพยายามห่างไกลจากสาเหตุของการเกิดมะเร็งทั้งหลายให้มากที่สุด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันคุ้นชินที่เราสามารถควบคุมได้ อย่างเช่น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ของมัน อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน กินผักผลไม้ให้มาก และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากขึ้น ส่วนปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เช่น เรื่องอากาศหรือสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็ง ก็ต้องอาศัยการป้องกันและหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
และอีกทางป้องกันหนึ่งที่สำคัญ คือการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งวิทยาการในการตรวจค้นหามะเร็งทุกวันนี้มีความครอบคลุมกว่าสมัยก่อนมาก เรียกว่าลงลึกไปถึงระดับยีนเพื่อหาความผิดปกติของเซลล์ก่อนที่จะลุกลาม ทำให้เพิ่มอัตราในการรอดชีวิตจากมะเร็งสูงขึ้นหรือมีโอกาสรักษาหายได้สูงขึ้น
ปัจจุบันทุกคนก็สามารถเริ่มต้นตรวจคัดกรองมะเร็งด้วยตนเองง่ายๆ อย่าง Carlos Valderrama ตำนานนักเตะหัวฟูของทีมชาติโคลัมเบีย ที่รณรงค์ให้ผู้ชายคลำอัณฑะของตนเอง หรือ TSE (Testicular Self-Exam) เพื่อตรวจหาสัญญาณของมะเร็งอัณฑะ แม้จะเป็นการรณรงค์ที่น่ารักและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน แต่ก็ทำให้ชาวโคลัมเบียตระหนักถึงประเด็นนี้อย่างจริงจังมากขึ้น และจากการรณรงค์ช่วยเหลือในรูปแบบนี้ ทั้งยังสร้างความเข้าใจและรู้จักป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ส่งผลให้ปีหนึ่งมีผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากมะเร็งมากถึง 3.7 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว
อุบัติการณ์มะเร็งลดได้ แค่ทุกคนช่วยกัน
ความเสียหายจากโรคมะเร็งไม่เพียงแค่คร่าชีวิตของผู้คนไปมากมาย แต่ยังสร้างความเสียหายในเชิงเศรษฐกิจอีกด้วย เพราะทั่วโลกต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการโรคมะเร็งกว่า 1.16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทุกปี จากปัจจัยความเสี่ยงที่เล่ามาข้างต้น บ่งบอกว่าใครๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้ ทำให้เกิดแคมเปญดีๆ อย่าง I AM & I WILL : World Cancer Day 2019 ของสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล ที่สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการป้องกันและลดการเกิดโรคมะเร็ง ผ่านบทบาทและหน้าที่ของตนเอง โดยมีแพลตฟอร์มเว็บไซต์ www.worldcancerday.org เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ ความเข้าใจ สิ่งที่น่าสนใจคือ แบบฟอร์มในเว็บที่ให้เลือก I AM… ว่าเราเป็นใคร และ I WILL… จะช่วยเหลือหรือลงมือในรูปแบบไหน รวมถึงถ้ามีเวลาประมาณ 1 นาที 5 นาที หรือมีมากกว่านั้น ระบบก็จะแนะนำวิธีการ take action ต่างๆ ตามสิ่งที่เราถนัดและสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกิจกรรมรณรงค์ การเป็นอาสาสมัคร ในการให้ความรู้เรื่องมะเร็งกับคนอื่น หรืออย่างง่ายที่สุดเพียงแค่เปลี่ยนภาพโปรไฟล์ในโซเชียลฯ ก็สร้างสามารถสร้างการรับรู้ให้กับเพื่อนๆ ได้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนให้โลกใบนี้ไม่มีมะเร็งได้ทุกคน
และเพื่อเป็นการรณรงค์แคมเปญ I AM & I WILL นี้ให้เห็นผลมากขึ้น โรงพยาบาลวัฒโนสถ ได้มีส่วนร่วมด้วยการสร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ด้วยการรู้จักใส่ใจตนเองมากขึ้น “ในวันมะเร็งโลกหรือ World Cancer Day 2019 จึงอยากให้ทุกคนเชื่อว่ามะเร็งป้องกันและรักษาได้ แค่เพียงใส่ใจตรวจคัดกรองมะเร็งและหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เพราะมะเร็งเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วม เพราะหนึ่งเดียวไม่พอสำหรับการต่อสู้มะเร็ง” ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวถึงการร่วมมือกันของทุกคน ที่จะเปลี่ยนเป็นพลังในการต่อสู้ให้โลกนี้ไม่มีมะเร็งอีกต่อไป
I am Wattanosoth Hospital and I will make cancer care beyond excellence.
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://voicetv.co.th/read/B1oOZIbUG
https://www.bbc.com/thai/features-45506221
https://www.bangkokhospital.com/wattanosoth/web/th/site/all_about_cancer/view/58
https://www.chrisbeatcancer.com/90-of-cancers-caused-by-diet-lifestyle-and-pollution-not-bad-luck/
https://www.bbc.com/thai/international-42037288
https://en.wikipedia.org/wiki/Cancer