ใครๆ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวิถีชีวิตของคน Gen ใหม่ ทุกสิ่งล้วนเร็วไวยิ่งกว่า 4G ติดไอพ่น ไม่ว่าจะโตไว รักกันไว ใช้ชีวิตไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนเหล่ามนุษย์อายุน้อยร้อยล้านมากมายที่มักถูกหยิบยกมาเอ่ยถึงยามใครถามถึงไอดอลในชีวิต
ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักจะเห็นเหล่าคน Gen ใหม่พวกนี้ที่มีแนวคิดแบบ YOLO : You Only Live Once มุมหนึ่งใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนไปกับการโหมงานหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองในด้านใดด้านหนึ่งที่ใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าและไปถึงความฝันได้ ชนิดที่ว่าแทบไม่มีเส้นแบ่งเวลาที่แท้จริงสำหรับการทำงาน และใช้ชีวิตเลยทีเดียว
ขณะเดียวกันนั้นเอง ในพาร์ทของการเล่นสนุกพวกเขาต่างก็ไม่พลาดที่จะใส่ให้สุดเช่นกัน ทำงานยิ่งเหนื่อยยามกินดื่มเที่ยวยิ่งเอาให้หนัก เรื่องเข้าสังคม สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เรียกว่าแทบไม่มีคำปฏิเสธเลยจะดีกว่า โดยที่พวกเขาอาจไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าการใช้ชีวิตสุดโต่งแบบ Work Hard Play Harder ราวกับว่าชีวิตจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกต่อไปแล้วเช่นนี้ อาจทำให้ร่างกายและจิตใจถูกใช้งานหนักเลยขีดจำกัด จนพังลงก่อนที่พวกเขาจะทันได้แตะเส้นชัยที่วาดหวังไว้ก็เป็นได้
นั่นจึงเป็นที่มาของการเซ็ตอัพแนวคิดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับช่วยบาลานซ์ชีวิตของเหล่ามนุษย์มิลเลนเนียลให้กายใจไม่พังไปก่อนเวลาอันควรเสียก่อน เป็นแนวคิดจาก BLEND 285 ที่มีชื่อว่า ‘Work Half Play Half’
Work Half – ชีวิตดีเรามีได้
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้เชื่อว่าหลายคนคงพอได้ยินข่าวการทำงานหนักจนตาย หรือการฆ่าตัวตายเพราะความเครียดจากการทำงานหนักเกินลิมิตในต่างประเทศกันมาบ้าง การตายไม่ว่าจะเพราะสาเหตุอะไรก็น่าเศร้าพออยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งฟังว่าเป็นการจากไปเพราะการทำงานหนักยิ่งฟังดูน่าหดหู่อย่างประหลาด อาจเป็นเพราะว่าคนเราไม่ควรเกิดมาเพื่อทำงานแล้วตายไป โดยยังไม่ทันได้ซึมซับความสุขในชีวิตก็เป็นได้
หลายคนเลือกที่จะทำงานหนักจนเกินไปด้วยความคิดที่ว่าเหนื่อยวันนี้ สบายวันหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าร่างกายจะสามารถทนรับแรงกดดัน ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ได้จนถึงวันหน้าหรือเปล่า ครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง จะยังอยู่รอชื่นชมยินดีความสำเร็จในวันนั้นหรือไม่ Work Half ในที่นี้จึงหมายถึงการทำงานแบบพอดี แบ่งเวลา แบ่งพื้นที่ให้ชีวิตได้ใช้บ้าง ค่อยๆ เดินมุ่งหน้าสู่เป้าหมายโดยทำความเข้าใจก่อนว่า ชีวิตดีเรามีได้ แค่รู้จักใช้ให้เป็นเท่านั้น ซึ่งสำหรับใครที่ยังมีปัญหาในเรื่องนี้ควรจะเริ่มต้นง่ายๆ ขั้นแรกด้วยการแยกงานออกจากเวลาส่วนตัวให้ชัดเจน รวมถึงไม่ใช้เวลางานไปกับการเล่นโซเชียลมีเดียเรื่อยเปื่อย แต่ตั้งใจโฟกัสกับงานให้เต็มที่ เพื่อให้ได้เนื้องานที่มีประสิทธิภาพที่สุดจนสามารถจบงานได้ในเวลางาน
Play Half – ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้เสมอ
เชื่อว่านอกจากการทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนแล้ว หลายคนยังอาจเคยประสบปัญหาเที่ยวหนักจนทำงานไม่ได้เช่นกัน อาจเป็นเพราะคน Gen ใหม่ต่างกำลัังอยู่ในวัยสร้างสังคม มากกว่าการสร้างครอบครัว จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะสามารถเฮไหนเฮนั่น ปาร์ตี้ยันเช้า เมายันอีกวัน หรือทำพฤติกรรมสุดเสี่ยงเพื่อพิสูจน์ตัวเองในหมู่เพื่อนฝูงได้โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยบอกกับตัวเองว่าชีวิตเกิดมาทั้งทีต้องใช้ให้คุ้ม
ซึ่งถ้าหากได้ลองหยิบยกมาเทียบกับหน้าที่การงานที่เสีย สุขภาพที่ทรุดโทรม และเวลาที่เราสามารถเอาไปทำอย่างอื่นที่ชอบจริงๆ แล้วจะพบว่ามันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าคุ้มเลย เพราะชีวิตเรายังมีวันพรุ่งนี้รออยู่เสมอ วันพรุ่งนี้ที่เราต้องเก็บสุขภาพกาย สุขภาพใจดีๆ ไว้ใช้ วันพรุ่งนี้ที่เราจะค่อยๆ ละเลียดชิมความสุขครั้งใหม่ วันพรุ่งนี้ที่เราจะยังมีแรงทำงาน มีแรงสนุกสนานกับการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้เต็มที่ และวันพรุ่งนี้ที่เราจะมั่นใจได้ว่ามีคำว่า ‘พรุ่งนี้’ อีกครั้ง
Work Half Play Half – ใช้ชีวิตให้กลมกล่อม
เพราะฉะนั้น ‘Work Half Play Half’ จึงเป็นแนวคิดที่ว่าด้วยการบาลานซ์ชีวิตระหว่างการทำงานและการเที่ยวเล่นให้อยู่ในจุดสมดุล เอื้อประโยชน์ต่อกัน โดยไม่ได้สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่ง เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ได้เอาแต่มุ่งไปข้างหน้าจนลืมชื่นชมระหว่างทาง หรือเอาแต่หลงมัวเมาระหว่างทางจนไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
มาเถอะ มา Work Half Play Half กัน แล้วจะรู้ว่าการใช้ชีวิตให้กลมกล่อมนั้น ดีกว่าไปสุดทางจนลืมชีวิตวันพรุ่งนี้