หลายต่อหลายภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เช่นเดียวกับการดำรงชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนที่ติดอยู่ในบ้านจนไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่ใครจะไปคิดว่า บริษัทจำหน่ายของเล่นเจ้าดังจากสหรัฐฯ ฮาสโบร (Hasbro) กลับทำยอดขายเกมเศรษฐี (Monopoly) และเมจิก เดอะแกเธอริง (Magic: The Gathering) เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
ถึงแม้ว่าฮาสโบรจะถูกผลกระทบจากการเลื่อนเวลาฉายของรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ จนทำให้ผลประกอบการการของบริษัทลดลงไป 4 เปอร์เซ็นต์ แต่ในทางตรงกันข้าม พวกเขากลับทำยอดขายเกมเศรษฐีและเมจิก เดอะแกเธอริง พุ่งขึ้นสูงกว่า 21 เปอร์เซ็นต์ เช่น เดียวกับสินค้าของเล่นที่มาจากภาพยนตร์ ‘สตาร์วอร์ส’ และ ‘เดอะแมนดาโลเรียน’ ที่ทำยอดขายให้บริษัทอย่างเป็นที่น่าพอใจ
CNN คาดเดาว่า ผลของการที่ยอดขายเกมเศรษฐี เมจิก เดอะแกเธอริง และของเล่นที่เกี่ยวกับภาพยนตร์โทรทัศน์พุ่งสูงขึ้น เกิดจากการที่ครอบครัวที่ไม่สามารถออกไปไหนได้จึงต้องสั่งซื้อของเล่นเหล่านี้ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตเพื่อหากิจกรรมฆ่าเวลาร่วมกันในครอบครัว
ไม่เพียงแต่ฮาสโบรที่ทำยอดขายของเล่นพุ่งสูงขึ้น คู่แข่งอย่างแมทเทล (Mattel) ก็ทำยอดขายตุ๊กตาบาร์บี้พุ่งสูงขึ้นกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยรถแข่งฮอทวีลส์ที่ทำยอดขายได้มากขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายเหล่านี้อาจบ่งชี้ได้ว่า การเล่นของเล่นอาจเป็นกิจกรรมคลายเครียดจากภาวะที่พวกเราไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เหมือนก่อนช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
ทั้งนี้ เกมเศรษฐีถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกในช่วง ค.ศ.1903 เพื่อเป็นเกมเชิงการศึกษาในการทำความเข้าใจระบบภาษีเดี่ยวของนักเศรษฐศาสตร์ชาวสหรัฐฯ เฮนรี จอร์จ (Henry George) โดยตัวเกมพยายามจะแสดงภาพให้เห็นถึงแง่ร้ายของการกว้านซื้อที่ดิน และการผูกขาดของเอกชน เกมเศรษฐีมีพัฒนาการของมันไปเรื่อย ๆ ก่อนที่ฮาสโบรจะเข้าซื้อสิทธิบัตรและผลิตเกมเศรษฐีใน ค.ศ.1991จนเกมเศรษฐีมีหน้าตาอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนี้นี่เอง
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/…/hasbro-earnings…/index.html…
https://www.nytimes.com/…/behind-monopoly-an-inventor…
https://www.wsj.com/articles/SB906510123988667500
#Brief #TheMATTER