เคยเจอกันไหม เวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่ดีๆ จะมีใครสักคนหนึ่งที่พูดแทรกขึ้นมาโดยทำลายบรรยากาศอยู่เสมอๆ ถึงแม้ว่าบางทีการพูดแทรกจะจำเป็น แต่การปล่อยถ้อยคำออกไปแบบไม่สนใจผู้คนก็ไม่ค่อยส่งผลดีเท่าไหร่เนอะ
มีคำเรียกรูปแบบของการ ‘พูดแทรก’ ที่ทำลายบรรยากาศและไม่คำนึกถึงมารยาทในการสนทนาเอาไว้ด้วยนะ โดยเรียกว่า ‘Intrusive Interruptions’ หรือ การขัดจังหวะที่รุกราน
ทั้งนี้ Intrusive Interruptions จะมีอยู่ 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่
1) Disagreement (ไม่เห็นด้วย) : ขัดจังหวะกลางคันโดยไม่ต้องรอให้คุณพูดจบ อาจไม่เห็นด้วยกับคุณ หรืออยากเสนอความคิดที่ดีกว่า
2) Floor taking (ยึดเวที) : หมายถึงการเอาพื้นที่หรือช่วงเวลาพูดของคนอื่นให้เป็นของตัวเอง ซึ่งอาจเรียกร้องความสนใจด้วยการใช้น้ำเสียงที่ดังกว่า ตัดจังหวะการพูด
3) Summarization (สรุปรวบรัด) : เป็นการพูดแทรกเพื่อขัดจังหวะ แล้วก็เอาคำพูดที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่นี้มาสรุปสั้นๆ เพื่อยึดเอาช่วงเวลาเป็นของตัวเอง มิหนำซ้ำ ยังขโมยเอาประเด็นของคนอื่นมาไว้กับตัวเองอีกด้วย
อย่างไรก็ดี การรับมือคนที่พูดแทรกนั้นก็มีหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือพูดจาตรงๆ ไปเลยว่าคนที่แทรกขึ้นมานั้นไม่มีมารยาท (ตัวอย่างเช่นการดีเบทประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โจ ไบเดน สวนกลับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชอบพูดแทรกขึ้นมา ด้วยคำพูดว่า “Would you shut up, man”)
ที่สำคัญคือ อย่าหยุดที่จะพูดเรื่องราวของตัวเอง และยึดมั่นในประเด็นที่เราอยากจะสื่อสารออกไปให้ดีที่สุด แม้คนที่พูดแทรกจะไม่สนใจบรรยากาศหรือจังหวะการแทรกที่ถูกต้องก็ตาม
ถึงแม้การพูดแทรกจะมีประโยชน์ในบางสถานการณ์ เช่น ขอให้อีกฝ่ายกลับเข้าสู่ประเด็นจริงๆ หรือขอให้อีกฝ่ายอธิบายสิ่งที่พูดอยู่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ก่อนจะพูดแทรกออกไปนั้น เราก็ควรคำนึงถึงจังหวะที่ถูกต้อง และเป้าหมายของการพูดแทรกด้วยว่า มันจะนำไปสู่การสร้างบทสนทนาที่ดีรึเปล่า?
แต่ถ้าการพูดแทรกไม่ได้นำพาไปสู่อะไร การฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจก็คงจะดีกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
อ้างอิงจาก
https://thematter.co/science…/please-dont-interrupt/50341
https://www.huffpost.com/…/how-to-talk-people…
#Brief #TheMATTER