ที่ผ่านมา เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘โลกร้อน’ มานับครั้งไม่ถ้วน แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่แค่โลกที่ร้อนขึ้นอย่างเดียว เพราะจักรวาลของเราก็กำลังมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Astrophysical Journal เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า จักรวาลมีอุณหภูมิร้อนขึ้น 2 ล้านองศาเคลวิน หรือประมาณ 4 ล้านองศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงหนึ่งหมื่นล้านปีที่ผ่านมา
อี กวนเชียง (Yi-Kuan Chiang) ผู้เขียนการศึกษา และนักวิจัยจากศูนย์จักรวาลวิทยาและฟิสิกส์ดาราศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท กล่าวว่า การวัดผลนี้ได้รับการยืนยันจากการศึกษาของจิม พีเบิลส์ (Jim Peebles) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2019 และเป็นผู้วางทฤษฎีว่าโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นในจักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไร
ต้องอธิบายก่อนว่า โครงสร้างขนาดใหญ่ของเอกภพคือ การกระจายตัวที่สังเกตได้ของสสารและแสงในจักรวาลในระดับมหภาค ดังนั้น ขณะที่จักรวาลวิวัฒนาการไป แรงโน้มถ่วงจะดึงสสารมืด และก๊าซในอากาศมารวมกันเป็นดาราจักร และกระจุกกาแล็กซี่ ซึ่งกระบวนการลากดึงอย่างรุนแรงนี้จะทำให้แก๊ซมีความร้อนเพิ่มสูงขึ้น
ทีมนักวิจัยได้หาวิธีตรวจสอบอุณภูมิของจักรวาลที่อยู่ห่างไกลจากโลก โดยมีการวัดความระดับร้อนของก๊าซที่มีระยะห่างจากโลกแตกต่างกัน เนื่องจากแสงจากดวงดาวและกาแล็กซีที่อยู่ห่างไกลต้องใช้เวลาการเดินทางมาถึงโลก การมองวัตถุที่อยู่ห่างไกลก็เหมือนกับการย้อนเวลากลับไป ซึ่งวิธีนี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป อุณหภูมิของจักรวาลจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการล่มสลายของโครงสร้างจักรวาลด้วยแรงโน้มถ่วง
และเพื่อทำความเข้าใจว่าอุณภูมิของจักรวาลเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด นักวิจัยได้ใช้ข้อมูลแสงทั่วจักรวาลที่รวบรวมมาจากสองวิธีคือ พลังค์ (Planck) และการสำรวจท้องฟ้าดิจิทัลของสโลน (the Sloan Digital Sky Survey) จากนั้นมีการประเมินระยะทางของก๊าซความร้อนที่อยู่ในระยะใกล้ และไกล ผ่านวิธี ‘Redshift’ หรือการเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ใช้ในการประมาณอายุจักรวาลที่สังเกตเห็นวัตถุที่อยู่ห่างไกล
หลังจากทดลองพบว่า แนวคิด Redshift ได้ผลเป็นอย่างดี เนื่องจากแสงที่เราเห็นจากวัตถุที่อยู่ไกลโลกนั้นจะมีสีเจือจางมากกว่าแสงที่เราเห็นจากวัตถุใกล้โลก นักวิจัยได้นำผลลัพธ์นี้มาศึกษาร่วมกับวิธีหาอุณหภูมิของแสง ทำให้ท้ายที่สุด นักวิจัยสามารถวัดอุณหภูมิเฉลี่ยของก๊าซในจักรวาลยุคแรกได้สำเร็จ
จากนั้นทีมนักวิจัยได้นำเอาอายุของก๊าซที่อยู่ห่างไกลโลกมาเปรียบเทียบกับอายุของก๊าซที่อยู่ใกล้โลก ทำให้รับรู้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แท้จริง และได้ผลลัพธ์ออกมาข้างต้นคือ จักรวาลมีอุณหภูมิร้อนขึ้น 2 ล้านองศาเคลวิน หรือประมาณ 4 ล้านองศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงหนึ่งหมื่นล้านปีที่ผ่านมา
หลายคนคงมีคำถามว่าการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิจักรวาลนี้มีความเชื่อโยงกับภาวะโลกร้อนของเราหรือไม่ อี กวนเชียง กล่าวว่า เอกภพร้อนขึ้นเนื่องจากกระบวนการทางธรรมชาติของดาราจักร และการก่อตัวของโครงสร้าง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน และปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในระดับที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นพวกมันไม่มีความเชื่อมโยงกันเลย
อ้างอิงจาก
https://news.osu.edu/the-universe-is-getting-hot-hot-hot-a-new-study-suggests/
https://futurism.com/the-byte/universe-getting-steadily-hotter
#BRIEF #TheMATTER