รู้หรือไม่ว่าในปัจจุบันยังมีอีกหลายประเทศที่ห้ามกลุ่มเพศหลากหลาย บริจาคเลือด และหลายประเทศในที่นี่ก็รวมถึง ‘ประเทศไทย’ ด้วย โดยสภากาชาดไทยเคยให้เหตุผลโดยอ้างถึงหลักสากล ที่ระบุสถิติเชื้อเอชไอวีและไวรัสตับอักเสบซี เกือบ 100% มาจากกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแอบแฝง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนหลักสากลดังกล่าวใช้ไม่ได้กับประเทศอังกฤษ เพราะล่าสุด อังกฤษได้มีการผ่อนปรนกฎหมายเพื่อให้กลุ่มเพศหลากหลาย ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศสภาพระหว่าง ชาย-ชาย สามารถบริจาคเลือดได้แล้ว
องค์กร NHS Blood and Transplant (NHSBT) ของอังกฤษกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 เป็นต้นไป เหล่าเพศหลากหลายที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของการบริจาคเลือดสามารถทำได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ทาง NHSBT ได้กำหนดเงื่อนไขบางประการสำหรับการบริจาคเลือดของกลุ่มคนดังกล่าว
NHSBT ระบุว่า กลุ่มเพศหลากหลายที่ต้องการบริจาคเลือดจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันบริจาคเป็นเวลา 3 เดือน (จากระยะเวลาเดิมคือ 1 ปี) ไม่เช่นนั้นต้องพิสูจน์ได้ว่าตลอดเวลา 3 เดือน ไม่ได้เปลี่ยนคู่นอนมากกว่า 1 คน นอกจากนี้ ผู้บริจาคเลือดยังต้องไม่เคยผ่านการติดเชื้อ หรือโรคทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงไม่เคยใช้ยาต้านเอชไอวี PrEP หรือ PEP NHSBT ด้วย
เพื่อความปลอดภัยอีกขั้น ทาง NHSBT จะให้ผู้บริจาคทำแบบสอบถามการตรวจสุขภาพต่างๆ ที่สามารถบ่งชี้ถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคทางเพศมากน้อยเพียงใด โดยขั้นตอนเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อปกป้องทั้งตัวผู้บริจาคเลือด และผู้รับบริจาคเลือด และลดความเสี่ยงของเลือดที่มีการติดเชื้อ แต่ไม่สามารถตรวจพบในการตรวจคัดกรอง และการทดสอบเพิ่มเติมจากการบริจาคเลือด
แน่นอนว่าความก้าวหน้าของอังกฤษถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของโลกที่จะทำให้เหล่าผู้หลากหลายทางเพศมีความเท่าเทียมมากขึ้น อีธาน สปิเบย์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Freedom To Donate ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้ง ‘ธนาคารเลือดนอกกฎหมาย’ (The Illegal Blood Bank) และสร้างแคมเปญรณรงค์การบริจาคเลือดของผู้หลากหลายทางเพศ กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบ 6 ปีที่กลุ่มอาสาสมัครต่อสู้เรื่องนี้มาตลอด และวันนี้เราเห็นแล้วว่ามันคุ้มค่ามากเพียงใดกับการทำงานหนัก
ซู เบลิสฟอร์ด (Su Brailsford) รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ NHSBT ซึ่งทำหน้าที่ดูแลการบริจาคโลหิตในอังกฤษและการปลูกถ่ายอวัยวะทั่วสหราชอาณาจักร กล่าวว่า มีผู้ป่วยมากมายที่รอคอยเลือดของผู้บริจาค และเราจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเลือดที่เราจัดหามานั้นได้รับการคัดสรรอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งชาติ สหราชอาณาจักรได้สร้างข้อจำกัดต่างๆ เพื่อกีดกันเลือดที่มาจากกลุ่มชายรักชาย เพื่อป้องกันความกังวลจากเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ หลายคนจึงมองว่านี่เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะทำให้การยอมรับเลือดจากกลุ่มชายรักชายกลายเป็นเรื่องสามัญทั่วโลกได้ในอนาคต
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/uk-55296525
#BRIEF #TheMATTER