เราอาจจะเคยได้ยินโครงการเมืองหรือถนนสีเขียวในหลายที่ ไม่เว้นแม้แต่ในไทย และเช่นเดียวกับฝรั่งเศส เพราะล่าสุด ผู้ว่าเมืองปารีสมีแผนกำลังจะเปลี่ยน ‘ช็องเซลีเซ’ ถนนเส้นดัง ให้กลายเป็น ‘สวนสีเขียวชอุ่ม’
แอนน์ อีดาโก ผู้ว่าปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เปิดเผยถึงแผนการปรับเปลี่ยนถนนช็องเซลีเซให้กลายเป็นถนนสีเขียวตลอดระยะทาง 1.9 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 250 ล้านยูโร (ประมาณ 9.18 พันล้านบาท) เพื่อทำให้ถนนที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของปารีส เต็มไปด้วยความชุ่มชื่น หลังจากที่พวกเขารณรงค์การปรับปรุงช็องเซลีเซมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.2018
“มันมักถูกเรียกว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก แต่พวกเราในฐานะคนที่ต้องสัญจรผ่านไปมาเพื่อทำงานแถวนี้ทุกๆ วัน คงไม่คิดเช่นนั้น” ฌอง-โนเอล เรียงอาร์ดท์ หนึ่งในคณะกรรมการของคณะทำงาน เคยกล่าวถึงถนนเส้นนี้เอาไว้เมื่อ ค.ศ.2019 ที่ผ่านมา
แผนการปรับปรุงช็องเซลีเซมิได้มีเพียงแค่การเพิ่มต้นไม้ลงไปบนถนนเท่านั้น แต่พวกเขาวางแผนที่จะลดขนาดช่องเดินรถให้เล็กลงครึ่งหนึ่ง แล้วเปลี่ยนให้มันกลายเป็นทางเท้าและสวนสีเขียว รวมไปถึงการสร้างอุโมงค์ต้นไม้ ที่จะช่วยให้ช็องเซลีเซมีคุณภาพอากาศที่สะอาดขึ้น
ช็องเซลีเซถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังครองราชย์อยู่ มันเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการเดินเล่นและนั่งปิกนิกมาหลายศตวรรษ ในปัจจุบัน มันเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายที่ รวมไปถึงร้านค้าแบรนด์แฟชั่นสุดหรูหลายเจ้า
มีสถิติเปิดเผยว่า ก่อนการระบาดใหญ่ COVID-19 ถนนเส้นนี้รองรับผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาหลายแสนคนต่อวัน โดย 72 เปอร์เซ็นต์คิดเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และ 22 เปอร์เซ็นต์ คือ คนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ ช็องเซลีเซเป็นถนนสายใหญ่ขนาด 8 ช่องทางเดินรถ ทั้งนี้ มันถูกใช้เป็นทางสัญจรของรถจำนวน 3,000 คันต่อชั่วโมง
ด้วยการที่มีรถสัญจรผ่านไปมาอย่างมากต่อวัน ช็องเซลีเซเริ่มกลายเป็นอีกสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มลภาวะด้านอากาศ ที่มีค่าฝุ่นสูง ผู้ว่าเมืองปารีสและคณะทำงานจึงตัดสินใจแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยแผนการปรับปรุงให้ช็องเซลีเซกลายเป็นถนนสีเขียวตามที่ได้กล่าวไป
จากการเปิดเผยของอีดาโก โครงการดังกล่าวอาจจะแล้วเสร็จออกมาให้เราได้เห็นกันในช่วงประมาณ ค.ศ.2030 ซึ่งไม่น่าแล้วเสร็จทันโอลิมปิกฤดูร้อนใน ค.ศ.2024 ที่จะจัดขึ้นในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เตรียมการจะเปลี่ยนหอไอเฟลให้กลายเป็นสวนสีเขียวใจกลางนครปารีสในอนาคตอีกด้วย
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER