ขบวนการเรียกร้องสิทธิความเทียมเทียมระหว่างชาย-หญิงที่มีมาอย่างยาวนานเริ่มแสดงผลทีละน้อยในแต่ละแวดวง รวมถึงวงการศาสนา ที่ล่าสุด สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้เปลี่ยนกฎหมายคริสตจักรคาทอลิก เพื่ออนุญาตให้ผู้หญิงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ณ แท่นบูชา ในพิธีมิสซา ได้แล้ว
อย่างที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้ หน้าที่ดังกล่าวสงวนไว้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ จึงเป็นเหมือนก้าวแรกที่สำคัญของการเปิดกว้างบทบาทของผู้หญิง สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวผ่านจดหมายว่า เขาได้ตัดสินใจหลังจากการไตร่ตรองทางเทววิทยามาเป็นอย่างดี และเสริมว่านี่คือการปรับตัวของศาสนจักรตามเวลา และยุคสมัย
แม้ว่าที่ผ่านมา ศาสนจักรในประเทศที่กำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศ จะอนุโลมให้ผู้หญิงสามารถทำหน้าที่อ่านพระคัมภีร์ แต่การเปลี่ยนกฎหมายอย่างเป็นทางการ ทำให้พวกเธอได้รับการยอมรับมากขึ้น เพราะการเปลี่ยนกฎในครั้งนี้ ทำให้ศาสนจักรทั่วโลกต้องปฏิบัติไปตามแบบแผนเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ผู้หญิงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดพระคัมภีร์แก่ผู้คนได้นั้น ไม่ได้หมายความว่าเธอทั้งหลายจะเป็นปุโรหิต (นักบวช) สถานะดังกล่าวยังคงสงวนไว้เฉพาะผู้ชาย
เคท แมคเอลวี (Kate McElwee) ผู้อำนวยการบริหารของ The Women’s Ordination Conference กล่าวว่า ในสถานที่ทางศาสนาส่วนใหญ่ ผู้หญิงไม่เพียงแต่เป็นผู้อ่านคัมภีร์เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้อภิบาลด้วย จึงเชื่อว่าการเปลี่ยนกฎครั้งนี้จะทำให้ผู้หญิงสนใจเข้าร่วมในพิธีมิสซามากขึ้น
นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกในการเปิดกว้างพื้นที่ทางศาสนาให้แก่ผู้หญิง เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2016 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสก็ได้สร้างคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในศาสนามากขึ้น โดยขณะนั้นพุ่งเป้าไปที่หน้าที่มัคนายก ซึ่งจะเป็นผู้นำสวด และทำหน้าที่อภิบาลอื่นๆ หากนักบวชไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้
จากตัวเลขสถิติทั่วโลก จำนวนผู้หญิงที่เข้ามารับใช้คริสตจักรมีมากกว่าผู้ชาย แต่ถึงเช่นนั้นพวกเธอกลับถูกปฏิเสธไม่ให้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการประชุมสมัชชาวาติกัน เนื่องจากพวกเธอไม่ใช่นักบวช
ซึ่งที่ผ่านมานักรณรงค์ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้หญิงสามารถบวชได้มานานหลายทศวรรษ ยิ่งเมื่อคริสตจักรคาทอลิกประสบปัญหาขาดแคลนจำนวนนักบวชมานาน โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ถึงเช่นนั้นผู้หญิงก็ถูกกีดกันจากการเข้าถึงสถานะดังกล่าวมาตลอด ดังนั้นการปฏิรูปกฎหมายในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่อาจนำไปสู่การเปิดกว้างศาสนาสำหรับสตรีฆราวาสในอนาคต
อ้างอิงจาก
https://www.independent.co.uk/news/world/europe/pope-women-mass-priests-vatican-b1785366.html
#Brief #TheMATTER