หลังจากความขัดแย้งบนเรื่องชายแดน ระหว่างจีนกับอินเดียกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง รัฐคุชราตในอินเดียเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนชื่อผลไม้อย่าง ‘แก้วมังกร’ (dragon fruit) ไปเป็น ‘กามาลัม’ เพราะคำว่ามังกร เป็นสัญลักษณ์ของจีน
กามาลัม (kamalam) จะกลายเป็นชื่อใหม่ของแก้วมังกรในรัฐคุชราตของอินเดีย โดยคำดังกล่าวมาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่าดอกบัว (ใกล้เคียงเสียงไทยที่ถอดมาจากสันสกฤตอย่างคำว่า กมล) หลังจากที่มุขยมนตรีของรัฐคุชราตอย่าง วิเจย์ รูปานี ได้ออกมาแถลงยืนยันกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ชื่อ แก้วมังกร นั้นไม่เหมาะสม จากการที่มันทำให้เรานึกถึงจีน เราจึงจะเปลี่ยนชื่อมันเป็นกามาลัม”
ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับจีนตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองประเทศเกิดการปะทะกันทางการทหาร บริเวณชายแดนแถบหิมาลัย ตามรอยการปะทะกันระหว่างจีนและอินเดียในช่วงเดือนมิถุนายน ค.ศ.2020 ที่ผ่านมา ที่ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิตไปกว่า 20 นาย
ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา อินเดียได้กล่าวโจมตีว่าจีนมีความพยายามในการรุกรานเขตแดนของตน ด้วยการจัดตั้งขบวนการการยั่วยุทางการทหาร โดยก่อนหน้านี้ อินเดียได้มีนโยบายตอบโต้จีนกลับ อาทิ การแบน แอพพลิเคชั่นจากจีนอย่าง TikTok WeChat และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีก 60 แอพพลิเคชั่น จากเหตุความมั่นคงแห่งชาติ
แก้วมังกรไม่ใช่ผลไม้พื้นถิ่นของทั้งจีนและอินเดีย เพราะผลไม้ในตระกูลเดียวกันกับกระบองเพชรชนิดนี้ มีต้นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกากลาง และแก้วมังกรมักเป็นผลไม้ที่ถูกส่งออกไปยังประเทศในแถบอเมริกาใต้เป็นหลัก ทั้งนี้ มีรายงานว่าอินเดียเพิ่งเริ่มอุตสากรรมการเพาะปลูกแก้วมังกรในประเทศของตน โดยเฉพาะในรัฐคุชราตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง
มีการสันนิษฐานว่า แก้วมังกรถูกตั้งชื่อขึ้นตามลักษณะจากผลของมัน ที่มีหน้าตาน่ากลัวคล้ายเกล็ดของมังกร อย่างไรก็ดี แก้วมังกรก็ยังคงไม่มีที่มาที่ไปที่ปรากฏหรือตั้งอยู่ในจีนเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่คำว่ามังกรดันไปสอดคล้องกันกับสัตว์ประจำชาติของจีนเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดี ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ในตราประจำพรรคภารตียชนตา ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่รูปานี และ นเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีของอินเดียคนปัจจุบันสังกัดอยู่ ทั้งนี้ โมทียังเคยเป็นมุขยมนตรีของรัฐคุชราตด้วยเช่นกัน
ภายหลังจากการประกาศดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตของอินเดีย จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นมุกตลกร้ายที่ชาวอินเดียส่งต่อกันไปเรื่อยๆ รวมไปถึงการวิจารณ์ว่ารัฐบาลของพรรคภารตียชนตา มักแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนชื่อสิ่งต่างๆ อย่างกรณีที่เคยเกิดขึ้น เช่น ชื่อเมืองและถนนในประเทศ เพื่อลบหลักฐานของการที่อินเดียเคยมีชนชั้นปกครองเป็นมุสลิม
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-india-55732616
https://www.bbc.com/news/world-asia-india-46015589
https://indianexpress.com/article/explained/dragon-fruit-kamalam-gujarat-7154571/
https://www.nytimes.com/2020/06/29/world/asia/tik-tok-banned-india-china.html
#Brief #TheMATTER