เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เปิดเผยว่าวัคซีน COVID-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ผ่านการทดสอบคุณภาพ และจะฉีดให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะรัฐมนตรี ในเช้าวันนี้ อย่างไรก็เมื่อช่วง 9.00 น. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนให้กับนายกฯ และได้แถลงข่าวถึงสาเหตุต่างๆ
สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงประเทศเดนมาร์ก ได้สั่งระงับการฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกาหลายล้านโดส เนื่องจากเจอผลข้างเคียงว่าเกิดลิ่มเลือดในผู้รับวัคซีน
จากข้อมูลดังกล่าว ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แถลงว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ชะลอการฉีดวัคซีนออกไปก่อน เพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุ และผลข้างเคียงที่แน่ชัดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำว่าการการเลื่อนฉีดวัคซีนครั้งนี้ไม่ใช่การ ‘ยุติ’ แต่อย่างใด เป็นเพียงการชะลอไว้จนกว่าจะหาข้อสรุปออกมาได้ นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่า วัคซีนแอสตราเซเนกามีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ในส่วนของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ศ.พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ระบุว่า การเกิดโรคต่างๆ หลังฉีดวัคซีนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของผู้ฉีดแต่ละคน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าการเกิดเคสลิ่มเลือดนั้น เกี่ยวข้อกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ต่อไป
อ้างอิงจาก
https://web.facebook.com/fanmoph/videos/760486661497869/