‘Regular Sleep, Healthy Future.’ สโลแกนของวันนอนหลับโลก ซึ่งก็คือวันที่ 19 มีนาคม นี้นี่แหละ เพราะการนอนส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง วันนี้จึงต้องการให้ทุกคนมีการนอนที่ปกติเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต เราเลยอยากชวนมาทำความเข้าใจในการนอนของเราเอง ว่ามันเป็นแบบไหน? ต้องนอนแบบไหน? แล้วทำไมการอดนอนถึงอันตรายกันนะ?
การนอนมีหลายระยะ นอนหลับให้ลึกในระยะท้ายๆ จึงจะเป็นการนอนที่มีประสิทธิภาพ การนอนหลับๆ ตื่นๆ จึงไม่ดีกับสุขภาพเท่าไหร่นัก แม้ตอนที่เราล้มตัวลงนอน เหมือนกับว่าทุกอย่างปิดการทำงานลง
แต่จริงๆ แล้วร่างกายไม่ได้หยุดทำงานเสียทั้งหมด ยังคงมีโหมดออโต้ไพลอต (Autopilot) เปิดเอาไว้สำหรับการดำรงชีวิต โดยเฉพาะสมอง สารสื่อประสาทและฮอร์โมนบางชนิดยังคงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง (หรืออาจจะขี้เกียจเหมือนเจ้าของร่างกาย) รวมถึงการฟื้นฟูร่างกายด้วยเช่นกัน
จริงๆ การนอนหลับมันมีระยะของมัน ช่วงที่เราเริ่มเข้านอน ร่างกายเราจะผ่อนคลายมากขึ้น ความดันและอัตราการเต้นของหัวใจลดลง เราจะรับรู้แบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ในระยะที่ 1-2 เรื่อยๆ ไปจนถึงตอนที่หลับสนิท ในระยะที่ 3 ทั้ง 3 ระยะนี้เราเรียกว่า NREM แต่ร่างกายที่น่าฉงนของคนเรา จะปลุกให้สมองลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นอีกครั้งด้วยการฝัน ตาเราจะกรอกไปมาทั้งที่ยังปิดอยู่ ระยะนี้เราก็ยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนชื่อเรียกแล้ว เรียก REM แทน
ที่เล่ามาทั้งหมด ต้องการบอกว่า การนอนพักผ่อนให้เพียงพอด้วยจำนวนชั่วโมงนั้น ไม่ได้เท่ากับการนอนอย่างมีประสิทธิภาพ กลับไปดูตรงระยะ NREM กัน รวบยอดให้เลยว่า การนอนที่ดีคือการนอนหลับสนิท และการนอนหลับให้สนิทก็ต้องให้ถึงระยะที่ 3 นั่นเอง
นั่นคือเมื่อตอนที่เรานอน แล้วตอนที่เราอดนอนล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย?
ภูมิคุ้มกัน จะเป็นวงกระเพื่อมวงแรก สู่วงกระเพื่อมอันมหาศาลต่อร่างกาย ระบบต่างๆ ที่ทำงานแบบสัมพันธ์กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็โดนผลกระทบนี้ไปด้วยเช่นกัน แม้ว่าตัวเราจะรับรู้เพียงความเพลีย เหนื่อย อยากนอนแล้ว เหี่ยวเฉาจัง แต่ระบบข้างในร่างกายของเราเดือดร้อนมากกว่านั้น เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้ร่างกายต้อง dead inside ก่อนอายุขัยจริงมาถึง มานอนกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอนกันให้เป็นปกติกันเถอะ
รู้อย่างนี้แล้ว มาฟังเพลงกล่อมนอนหลากหลายสไตล์ จากเพลย์ลิสต์บน Spotify ที่เราคัดมาให้ ฟังกันได้ยาวๆ แบบไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง รับรองว่าต้องได้หลับตานอนก่อนเพลย์ลิสต์จะจบแน่ๆ
Jazz Vibes
ดนตรี lo-fi ที่มีกลิ่นอายแจ๊ซมาช่วยเพิ่มสีสันให้ไม่น่าเบื่อ
Floating Through Space
ล่องลอยไปในอวกาศไปกับแอมเบียนต์ ราวกับร่างกายนี้ไร้ซึ่งน้ำหนักใดๆ และกำลังล่องลอยไปสู่ห้วงอวกาศและความฝัน
Music Therapy
จังหวะเนิบช้าคอยสร้างความสงบและผ่อนคลาย ด้วยบทเพลงบรรเลงแบบไร้คำร้องใดๆ
Ambient Relaxation
ขับกล่อมเราเข้านอนด้วย แอมเบียนต์จากธรรมาชาติที่แทรกอยู่ตามบทเพลงบรรเลง
Fall Asleep
ดนตรีบรรเลงเนิบช้าที่เน้นให้ความผ่อนคลาย เพื่อพาเราไปยังห้วงนิทรา