กรณี กุลทรัพย์ วัฒนพล หรือ ‘อัพ VGB’ อดีตผู้บุกเบิกวงการอีสปอร์ตในไทย ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 หลังจากติดเชื้อ COVID-19 ได้กลายเป็นประเด็นที่สังคมตั้งคำถาม ถึงปัญหาที่ผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที
วันนี้ (14 พฤษภาคม 2564) กุลเชษฐ์ วัฒนผล พี่ชายของกุลทรัพย์ ในฐานะที่ได้รับมอบอำนาจมาจากแม่ ได้เดินทางไปยังศาลปกครองเพื่อยื่นฟ้อง ศบค. และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดนี้ ร่วมกันชดเชยค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 4,530,000 บาท จากกรณีละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรเป็นเหตุ จนส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต
กุลเชษฐ์ ระบุว่า กรณีของพี่ชาย คือปัญหาที่ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงการรักษาอย่างทันท่วงที จนทำให้เชื้อ COVID-19 ทำลายปอดจนไม่สามารถรักษาได้และเสียชีวิตในวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา
แม้ว่า ศบค. เคยประกาศแจ้งว่ามีศูนย์ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินตามหมายเลขสายด่วน ได้แก่ 1330, 1422, 1668, 1669, 1323 ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ผู้เสียชีวิตซึ่งเคยมีลักษณะอาการตามที่ ศบค.เคยประกาศ ได้พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือตามหมายเลขเหล่านั้นแล้ว ซึ่งมีทั้งติดต่อไม่ได้และติดต่อได้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ทางครอบครัวยังมองว่า ศบค. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ปล่อยให้มีการเปิดสถานบริการ สถานบันเทิงจนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อในคลัสเตอร์ทองหล่อเมื่อเดือนมีนาคม แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดกลับไม่ได้มีการประกาศห้ามเดินทาง หรือออกมาตรการป้องกันการระบาดจากสถานบันเทิงสู่สังคม ยังคงให้ประชาชนเดินทางกลับไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนการแพร่ระบาดขยายสู่ประชาชนเป็นวงกว้าง จึงเข้าข่ายจงใจประมาทเลินเล่อปฏิบัติหน้าที่โดยปล่อยปละ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
กรณีการเสียชีวิตของกุลทรัพย์ ได้ทำให้สังคมตั้งคำถามต่อการจัดการกับโรค COVID-19 ที่อยู่กับสังคมไทยมานานกว่า 1 ปีนั้น แต่ในเชิงนโยบายแล้วยังมีปัญหาเรื่องระบบที่ควรจะรัดกุม ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ
The MATTER เคยสรุปเรื่องราวนี้ไว้ สามารถอ่านได้ที่ : https://thematter.co/brief/141209/141209
อ้างอิงจาก
https://www.dailynews.co.th/politics/843437
https://mgronline.com/politics/detail/9640000046473