สถานการณ์ COVID-19 ในหลายประเทศยังน่าเป็นห่วง รวมถึงเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญกับการแพร่กระจายของไวรัสกลายพันธุ์ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทรัพยากรด้านการแพทย์ถดถอยลงเรื่อยๆ
ปัจจุบันโรงพยาบาลหลักในเมืองโอซาก้าขาดแคลนเตียง เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ต่างเหนื่อยล้า จนออกมาเตือนว่านี่เป็นสัญญาณการล่มสลายของระบบสาธารณสุข
เมืองโอซาก้าตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีประชากรอาศัยราวๆ 9 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 7% ของประชากรทั้งประเทศ แต่กลับมีอัตราผู้เสียชีวิตสูงถึง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งประเทศในเดือนพฤษภาคม หลังจากเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกที่ 4
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โอซาก้าพบผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึง 3,849 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ปัจจุบัน มีผู้ป่วย COVID-19 เพียง 14% จาก 13,770 คนเท่านั้น ที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะที่ส่วนใหญ่ต้องดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน
ยูจิ โทดะ (Yuji Tohda) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคินได (Kindai University Hospital) ในโอซาก้า เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์อังกฤษส่งผลให้มีการติดเชื้ออย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และตอนนี้เราไม่สามารถรับคนไข้เพิ่มได้อีก พูดง่ายๆ คือ ระบบสาธาณสุขของเรากำลังจะล่มสลาย
ขณะที่โทชิอากิ มินามิ (Toshiaki Minami) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชกรรมโอซาก้า (OMPUH) แสดงความเห็นถึงสถานการณ์ตอนนี้ว่า คนรุ่นใหม่หลายคนอาจคิดว่าพวกเขาแข็งแรงพอจะผ่านมันไปได้ แต่คราวนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ทุกคนตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเท่าๆ กัน
เขาเปิดเผยเพิ่มเติมถึงปัญหาใหม่ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ซัพพลายเออร์รายหนึ่งของโรงพยาบาลแจ้งว่าสต็อกยาโปรโพฟอล (Propofol) ซึ่งเป็นการระงับประสาทที่ใช้กับผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเหลือน้อยมาก ขณะที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคินไดเองก็กำลังขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยโคม่า
นอกจากปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน โดย ซัทสึกินา กายามะ (Satsuki Nakayama) หัวหน้าแผนกการพยาบาลของ OMPUH ยังกล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยที่อาการหนักจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ พยาบาลหลายคนในห้องผู้ป่วยโคม่าบอกว่าพวกเขาใกล้จะยอมแพ้แล้ว นั่นทำให้โรงพยาบาลต้องเริ่มคิดถึงเรื่องการดึงบุคลากรจากโรงพยาบาลอื่นๆ เข้ามาเสริม
ยาสุโนริ โคมัตสึ (Yasunori Komatsu) หัวหน้าสหภาพแรงงานของพนักงานภาครัฐในภูมิภาค กล่าวว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ “พวกเขาทำงานล่วงเวลา 100, 150, 200 ชั่วโมง และเป็นอย่างนั้นมามากกว่า 1 ปี”
แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่คลี่คลายลงในเร็ววัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ และบุคลากรที่ต้องรับมือกับโรคระบาด รวมถึงประชาชนทั่วไปต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการจัดงานโตเกียวโอลิมปิก ที่ตามกำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม ค.ศ.2021 นี้
โดยอกิระ ทาคาซึ (Akira Takasu) หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉินของ OMPUH กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกควรยุติ เพราะเรากำลังล้มเหลวในควบคุม COVID-19 สายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งหลังจากนี้เราอาจต้องเผชิญหน้ากับสายพันธุ์อินเดีย” อกิระ พูดเสริมว่า “การจัดงานโอลิมปิก จะทำให้นักกีฬาและผู้ชมกว่า 8 หมื่นคนหลั่งไหลเข้ามาในประเทศ และนี่จะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดหายนะอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน”
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 722,668 คน และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 12,351 คน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาฉีดวัคซีนให้ประชาชนล่าช้า คนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีเพียง 2.1% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
อ้างอิงจาก
https://www.reuters.com/…/no-ones-safe-anymore…/…
https://news.google.com/covid19/map?hl=th…
http://www.asahi.com/ajw/articles/14349720
https://www.theguardian.com/…/tokyo-olympics-anger…