ในจังหวะที่เศรษฐกิจซบเซา เราอยากจะพาไปพบกับธุรกิจ ‘วอลเปเปอร์สายมูเตลู’ หรือการทำพื้นหลังหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่นำเอาภาพไพ่ทาโร่ต์มาจัดเรียงตามศาสตร์โหรา ฮวงจุ้ย และไม่ได้เป็นแค่วอลเปเปอร์นิ่งๆ ธรรมดา แต่คัสตอมให้ตามพื้นดวงแต่ละคน เพื่อเสริมเรื่องของการงาน การเงิน ดวงความรัก และพิเศษสุดๆ คือ เสริมดวงให้มีโมเมนต์กับศิลปินที่ชื่นชอบ
ในวันที่ดวงดาวแห่งโชคชะตาเรียงตัวกัน The MATTER ได้มีโอกาสคุยกับ ‘มิกิ—อิศฤาย์ วิรัชติ’ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘มูเตเวิร์ล Mootae World’ เพจที่ทำธุรกิจสายมูเตลู ไม่ว่าจัดทำวอลเปเปอร์เสริมดวงแบบเฉพาะตัว รับจ้างดูดวงออนไลน์ หรือสำหรับใครที่ไม่สะดวกไปเองในช่วง COVID-19 ทางเพจก็มีบริการรับจ้างฝากไหว้ศาลเจ้าดังๆ ทั่วกรุงเทพมหานครฯ พร้อมอัดวิดีโอระหว่างทำพิธีส่งให้กับลูกค้าด้วย
“เรารู้สึกว่าช่วงนี้หลายคนเขาพยายามทำเรื่องที่เป็นฝั่งเหตุผลไปจนจะหมดแล้ว เขาเลยหันมามองสายเหนือธรรมชาติ ที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตฉันได้ (หัวเราะ)” มิกิบอกเราในจังหวะที่กำลังชวนคุยว่า ทำไมวอลเปเปอร์เสริมดวงของเพจถึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แม้จะเปิดตัวมาได้แค่สัปดาห์เดียว ยอดขายก็แตะหลักแสนแล้ว พร้อมยอดจองหลักพัน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อะไรคือแนวคิดที่มาของวอลเปเปอร์สายมูฯ เรื่องดวงกับออนไลน์มันไปด้วยกันได้จริงหรือ แล้วยุค COVID-19 คนหันพึ่งดวงหรือการมูเตลูมากขึ้นหรือไม่? เราชวนมิกิมาตอบทุกคำถาม ถึงธุรกิจใหม่ของเขาและผองเพื่อนในยุค COVID-19 นี้
‘มูเตเวิร์ล’ โลกของความเชื่อออนไลน์ที่ขายได้จริง
มิกิเคยทำงานสายเอเจนซีโฆษณามาก่อน ก่อนได้มีโอกาสผันตัวมาร่วมงานกับแพลตฟอร์มที่เจาะคอนเทนต์เรื่องการดูดวงเมื่อ 2-3 ปีก่อน มิกิได้มีโอกาสเรียนรู้พื้นฐานการเปิดไพ่ทาโรต์ และเรื่องมูเตลูอื่นๆ จากที่นี่ และเริ่มทำงานเป็นหมอดูออนไลน์ ควบคู่ไปกับงานประจำ
ปัจจุบัน มิกิเปิดเพจ มูเตเวิร์ล Mootae World ขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเรื่องดวงๆ มูๆ และการบูชา ร่วมกับเพื่อนอีกห้าคนเต็มตัว
“เรากับเพื่อนเปิดเพจ มูเตเวิร์ล Mootae World ขึ้นมา ตอนแรกเราอยากเป็นยูทูบเบอร์ พาคนไปมูฯ ไปถ่ายคอนเทนต์วิดีโอพาไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์โน่นนี่ แต่ช่วงที่เปิดก่อนหน้านั้น เราเปิดตามฤกษ์ที่ดี แต่เราไม่มีเวลาทำเพจเพราะเราทำงานประจำกันหมด แต่ล่าสุด COVID-19 มันแรงขึ้นในระลอก 4 แล้วทุกคนไม่อยากออกจากบ้านกันเลย แต่ส่วนตัวเราเป็นคนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอด เราก็เลยเปิดธุรกิจอันดับแรกคือ ฝากมูฯ คือรับไหว้พระพิฆเนศ พระแม่ลักษมี ฯลฯ แทนลูกค้า ระหว่างที่ไหว้ก็ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูปให้ลูกค้า พร้อมเปิดไพ่สื่อสารกับองค์เทพให้ด้วยเป็นเซอร์วิสแถม ซึ่งก็มีคนเข้ามาใช้บริการเยอะพอสมควร” มิกิบอกว่า ธุรกิจอาหารมีเดลิเวอรี ธุรกิจขายของก็มีอี-คอมเมิร์ซ แล้วทำไมสายมูเตลูจะมีเซอร์วิสออนไลน์บ้างไม่ได้
ส่วนวอลเปอเปอร์เสริมดวงสุดฮิตนั้น เริ่มมาจากเพื่อนในกลุ่มสองคนทำคอมมูนิตี้หมอดูเกี่ยวกับไพ่ทาโร่ต์อยู่แล้ว ชื่อว่าเพจ ‘Tarot and Beyond’ แล้วได้ลองเรียงภาพไพ่เสริมดวงทำเป็นคัฟเวอร์เพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมีคนเซฟเอาไปใช้ก็รีวิวกันว่าเสริมดวงได้จริง จากนั้นจึงเริ่มเป็นเทรนด์การเปลี่ยนหน้าจอมือถือเป็นภาพไพ่ทาโร่ต์ใบเดียวก่อน ทำให้หนึ่งในเพื่อนร่วมก่อตั้งเพจ มูเตเวิร์ล Mootae World ของมิกิ อย่างเพจ ‘นางเงือกดูดวง’ เห็นโอกาสจึงลองทำวอลเปเปอร์แจกฟรีโดยเรียงไพ่ทาโร่ต์ 3 ใบใน 1 ภาพ จัดเซตเป็นการเสริมเรื่องความรัก การงาน การเรียน ฯลฯ
ผลที่ได้ออกมาคือ โพสต์นั้นกลายเป็นไวรัล เกือบสี่หมื่นแชร์ในระยะเวลาสั้นๆ ได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีมาก
“ดังนั้นเราเลยมารวมทีมกัน คุยกันว่าอะไรทำให้วอลเปเปอร์เสริมดวงได้จริง ซึ่งมันก็จะมีเรื่องดาว หรือพื้นดวงของคนนั้น ไพ่ 3 ใบที่แมตช์กับดวงคนนั้น หรือองค์ประกอบอื่น เช่น ภูเขา น้ำ ที่ตรงกับฮวงจุ้ยคนใช้ เราเลยต่อยอดทำวอลเปเปอร์คัสตอมเป็นธุรกิจอีกขา” มิกิเล่าให้ฟัง
โดยวอลเปเปอร์เสริมดวงขายเริ่มต้นที่ชิ้นละ 249 บาท เลือกได้ว่าอยากจะเสริมด้านไหน ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และที่เจาะกลุ่มสุดๆ อย่าง ‘เสริมดวงสายติ่ง’ มิกิบอกว่าเป็นการเสริมดวงให้เราได้มีโมเมนต์กับศิลปินที่เราชื่นชอบเยอะๆ
“แต่ถ้าช่วงนี้ ดวงที่คนอยากเสริมที่สุดเลยก็คือ การงาน การเงิน คนต้องการมาก” หมอดูออนไลน์บอก ส่วนกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นวัยรุ่น ไปจนถึงปลาย 30 ปี
ว่าด้วยเรื่องดวงในยุคดิจิทัลที่รวดเร็ว และ COVID-19 ที่วุ่นวาย
เราตั้งคำถามคุยกับมิกิต่อว่า ในฐานะที่เขาอายุราว 26-27 ปี และหันมาจับธุรกิจสายมูอย่างเต็มตัว ในขณะที่หลายคนในช่วงอายุเขาอาจจะไม่เชื่อในเรื่องตำราดวงแล้วด้วยซ้ำ โดยอาจจะมองว่าเป็นเรื่องจับต้องไม่ได้ เขาคิดอย่างไรกับเรื่องของดวงๆ มูๆ และธุรกิจที่ทำอยู่
มิกิมองว่าการมูเตลูเป็นไลฟ์สไตล์ของคนในแต่ละยุค และเปลี่ยนรูปแบบไปได้เรื่อยๆ อย่างตัวเขาเองเมื่อเรียกตัวเองว่าเป็นหมอดู ก็ได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีในตลาดมาก่อน อะไรที่เวิร์กสำหรับตัวเองก็นำมาส่งต่อ
ขณะที่ในยุคนี้สิ่งที่คนใช้ดำรงชีวิตหลักๆ คือโทรศัพท์มือถือ และโลกโซเชียลมีเดีย หากเป็นสมัยก่อนเรื่องความเชื่ออาจจะอยู่ในรูปแบบอื่น เช่น คนรุ่นก่อนอาจจะให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยบ้าน แต่คนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตในโลกออนไลน์เสียเยอะ ทำงานหรือหาแฟนก็เกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ต
“ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวอลเปเปอร์มือถือมันถึงเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คนยุคนี้” เขาบอก “แต่พูดแบบตรงไปตรงมา ว่าเด็กรุ่นใหม่ดูจะไม่เชื่อเรื่องศาสนาหรือเรื่องเทพเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็ดูดวงกันอยู่ การดูไพ่มันเหมือนเป็นซับคัลเจอร์เล็กๆ เป็นไลฟ์สไตล์”
มิกิวิเคราะห์ว่า บางทีเรื่องการเปิดไพ่ดูดวง หรือการมูฯ อาจจะเป็นเรื่องที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจคนรุ่นใหม่ได้ ในยุคที่สังคมวุ่นวาย สับสน และเห็นความหวังริบหรี่ เขามองว่าเรื่องดวงมันไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อได้100% แต่บางคนก็ดูเพื่อความสบายใจและใช้คำตอบมาตั้งสตินำทางชีวิต ในฐานะหมอดู บางครั้งเขาก็ต้องรับมือคำถามเปิดไพ่ที่ไปไกลกว่าแค่ตัวคนถาม เช่นว่า “เมื่อไหร่สถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น?” หรือ “เมื่อไหร่รัฐบาลจะผลัดเปลี่ยน?”
ยิ่งในช่วง COVID-19 มิกิรู้สึกว่าเรื่องดวงเข้าใกล้ผู้คนมากขึ้น และได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อทุกคนพยายามทำทุกอย่างฝั่งเหตุผลอย่างเต็มที่แล้ว แต่ชีวิตก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าดีขึ้น เรื่องเชิงความเชื่อจึงเป็นคำตอบอีกแบบที่พวกเขาตามหา
“มันเหมือนเป็นที่พึ่งเล็กๆ ของคน บางคนเขาแค่รู้สึกว่า why not? ก็แค่ลองดูอ่ะ” มิกิสรุป แต่ก็ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า เรื่องดวงหรือมูเตลูเป็นความเชื่อส่วนตัว การดูดวงหรือวอลเปเปอร์ก็ไม่ได้การันตีทุกอย่างได้ 100% ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละบุคคลด้วยนะ
ติดตามเพจ มูเตเวิร์ล Mootae World ได้ที่ : www.facebook.com/Mootaeworld
#Brief #business #TheMATTER