เรื่องหนังสือเด็กและแบบเรียนของเด็กในไทยยังคงเป็นที่ถูกพูดถึง โดยล่าสุด องค์กรเครือข่ายครู นักการศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา ได้ออกแถลงการณ์ขอให้กระทรวงศึกษาธิการชี้แจง การสั่งตรวจสอบหนังสือ และจัดให้มีกลไกในการตรวจสอบ การอนุญาตให้ใช้สื่อการสอนในสถานศึกษาโดยภาคประชาชน
จากเดิมที่ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งให้ตั้งชุดตรวจสอบหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชนของกลุ่มวาดหวัง และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ทำหนังสือถึงสถานศึกษาในสังกัดเกี่ยวกับการตรวจสอบ และป้องกันหนังสือที่มีเนื้อหาขัดต่อความมั่นคงศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม อันดีงามของชาติ เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีการเผยแพร่หนังสือในลักษณะดังกล่าว ในสถานศึกษา ในขณะที่หนังสือที่ถูกใช้กลับมีหลักฐานว่า มีเนื้อหาที่ขัดต่อหลักวิชาการ หลักการประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน
ด้วยเหตุนี้ ทางองค์กรเครือข่ายครูฯ จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้
- ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับการใช้อำนาจ และวัตถุประสงค์ในการออกคำสั่งดังกล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการใช้กรอบอำนาจใด ที่กฎหมายได้ให้ไว้ในการตรวจสอบหนังสือชุด “วาดหวัง” และการปิดกั้นหนังสือใดๆ ที่อยู่ในสถานศึกษา และการจัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการขัดต่อเสรีภาพทางวิชาการ กระบวนการเรียนรู้เชิงวิพากษ์ ที่ไม่ยอมรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นการละเมิดต่อสิทธิพลเมือง และสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการต้องการจัดการนั้น เป็นประโยชน์ต่อคนกลุ่มใด และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมส่วนรวมจริงหรือไม่
- จัดให้มีกลไกการตรวจสอบหนังสือเรียน แบบฝึกหัด และสื่อการเรียนรู้ ในบัญชีกำหนดสื่อการเรียนรู้ สำหรับเลือกใช้ในสถานศึกษา ตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา ที่ประชาชนมีส่วนร่วม โดยจัดให้มีช่องทางในการยื่นข้อร้องเรียน และมีขั้นตอนการดำเนินงาน และกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการจะต้องดำเนินการเชิงรุก ในการตรวจสอบเนื้อหา และข้อความในแบบเรียนในบัญชีดังกล่าวด้วย
องค์กรเครือข่ายครูฯ ระบุในตอนท้ายของแถลงการณ์ว่า ขอให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการตามที่ร้องขอภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันประทับตราลงรับหนังสือ เพื่อการพิจารณาดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในลำดับถัดไป “เพราะเสรีภาพในการแสวงหาความรู้เป็นพื้นฐานความเป็นมนุษย์”
#Brief #TheMATTER