เอาจริงๆ ขี้เกียจเขียนถึงข่าวนี้แล้ว เพราะมันผ่านมาตั้ง 3-4 ปีแล้ว ทำไมถึงมูฟออนไปเรื่องอื่นไม่ได้เสียที แต่ในเมื่อตัวข่าวเองก็ยังไม่ได้บทสรุป ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฎ หลายคนก็ทักมาถามในเพจอยู่เรื่อยๆ ว่า คดีถึงไหนแล้ว เราจึงต้องติดตามต่อไป เพราะเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่คาใจ จึงคล้ายกับเป็นพันธะสัญญาที่เราจะต้องตามต่อให้ถึงที่สุด
ย้ำอีกทีว่า กรณีนี้เราไม่ได้ตรวจสอบ ‘ตัวบุคคล’ อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วัย 76 ปี แต่ตรวจสอบ ‘องค์กร’ ที่ถูกตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ปราบโกง สร้างความโปร่งใสให้สังคมไทย แต่พอถึงเวลาที่ต้องแสดงความโปร่งใสเสียเอง กลับทั้งใช้เวลานาน อิดออด (ให้กระดาษเปล่า) ไปจนถึงปฏิเสธจะเปิดเผยข้อมูล สร้างภาระแก่ประชาชนกับสื่อมวลชนที่แค่อยากรู้ข้อเท็จจริงต้องไปใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรม
หากใครยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้ ป.ป.ช.ต้อง ‘เปิดเผย’ ผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ที่ ป.ป.ช.ไม่แม้แต่จะรับคำร้องไว้ไต่สวน ให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 คน (เป็นคนละคดี แต่ฟ้องให้ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลจากคดีนาฬิกายืมเพื่อนเหมือนๆ กัน โดยมิได้นัดหมาย) หนึ่งคือวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) และสอง ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวออนไลน์ The MATTER
- ดูคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในส่วนของ The MATTER ได้ที่: https://drive.google.com/file/d/1fOWfv0FJOMOsES6cKLl1hs_OedS_gkfH/view
ซึ่งตามข้อกฎหมาย ป.ป.ช.มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวภายใน 30 วัน ที่ใกล้จะครบกำหนดเร็วๆ นี้
แต่หาก ป.ป.ช.ไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจะถึงที่สุดทันที ปริศนาต่างๆ เกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อน ก็น่าจะคลี่คลายมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวออนไลน์ The MATTER พยายามตรวจสอบความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ ว่า ป.ป.ช.จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับคำตอบจากผู้เกี่ยวข้องว่ายังไม่เห็นหนังสือแจ้งคำพิพากษาจากศาลปกครองกลาง กระทั่งไม่กี่วันก่อน นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ก็ยอมรับว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
นั่นทำให้ การเปิดเผยสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนของ ป.ป.ช. อาจต้องรอออกไปอีกหลายเดือน ..ไม่สิ หลายปี ดังตัวอย่าง
- คดีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข ฟ้องให้ ป.ป.ช.เปิดเผยสำนวนคดีทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์กระทรวงสาธารณสุข (ที่เธอเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่ ป.ป.ช.ยกคำร้อง) ที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ต้องเปิดเผยข้อมูลในเดือน มี.ค.2558 แต่ ป.ป.ช.อุทธรณ์ กว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา (ให้เปิดเผยข้อมูลเช่นเดียวกัน) ก็ในเดือน ก.ย.2563 หรือราว 5 ปีครึ่งต่อมา (คดีหมายเลขดำที่ อ.44/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อ.848/2563) https://www.admincourt.go.th/admincourt/upload/admcase/Document/judgement/PDF/2560/01012-600044-1F-631008-0000669203.pdf
- คดีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลในสำนวนคดีสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา (ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง) ที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ต้องเปิดเผยข้อมูลบางรายการในเดือน พ.ค.2552 แต่ ป.ป.ช.อุทธรณ์ และกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา (ให้เปิดเผยข้อมูลเช่นเดียวกัน) ก็ในเดือน ม.ค.2559 หรือราว 6 ปี 8 เดือนถัดมา (คดีหมายเลขดำที่ อ.484/2555 คดีหมายเลขแดงที่ อ.69/2559) https://www.admincourt.go.th/admincourt/upload/admcase/Document/judgement/PDF/2555/01012-550484-1F-590511-0000573292.pdf
ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันมีแผลที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ในหลายกรณี ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทั้งตัวประธานกรรมการ ป.ป.ช.เคยทำงานเป็นเลขาฯให้กับ พล.อ.ประวิตร, กรรมการ ป.ป.ช. 6 ใน 9 คน ถูกตั้งมาโดยสภาที่คณะรัฐประหารตั้งขึ้นมา ทั้ง สนช. และ ส.ว.แต่งตั้ง, กรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมดไม่ถูก set zero เพื่อสรรหาใหม่เหมือนองค์กรอิสระอื่น เช่น กกต., การไม่เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และวิษณุ เครืองาม ให้สาธารณชนได้รับทราบ, การวินิจฉัยหลายๆ คดีที่ค้านสายตา เช่น คดีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เป็นต้น
ยังมีเวลาให้ ป.ป.ช.ทบทวนการตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนท่าทีเปิดเผยข้อมูลออกมา เพื่อแสดงความโปร่งใสในการทำงานและเรียกคืนความน่าเชื่อถือจากสังคม
ด้วยความปรารถนาดี
#Brief #TheMATTER