เป็นอีกหนึ่งการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังคณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติ 29 : 0 เห็นควรให้ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ โดยระบุว่าเป็นกิจกรรมที่สะท้อนอำนาจนิยม และเป็นการสนับสนุนอภิสิทธิ์ชนผ่านค่านิยมความงาม
ในแถลงการณ์คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่า กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวนั้นจำลองกระบวนแห่จากราชสำนัก โดยในกิจกรรมจะประกอบด้วยผู้อัญเชิญพระเกี้ยว เป็นผู้ถือประเกี้ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของมหาวิทยาลัย นั่นบนเสลี่ยงที่แบกโดยนิสิตกว่า 50 คน
ทั้งนี้ กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวนั้นถือเป็นการสนับสนุนและสะท้อนระบบอำนาจนิยม เป็นการค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน อีกทั้งรูปแบบกิจกรรมยังเป็นภาพแทนของวัฒนธรรมศักดินาที่ชูให้คนกลุ่มหนึ่งอยู่สูงกว่าคนกลุ่มหนึ่ง โดยมี ‘พระเกี้ยว’ เป็นสัญลักษณ์ของระบบศักดินา
ประกอบกับกระบวนการคัดเลือกผู้เชิญพระเกี้ยวเป็นที่กังขาถึงความโปร่งใส และเป็นที่กังขาว่าเป็นการสนับสนุนความเป็นอภิสิทธิ์ชนผ่านค่านิยมตามมาตรฐานความงามแบบใดแบบหนึ่งของสังคม
นอกจากนี้ ยังพบว่าการจัดกิจกรรมมีการใช้อำนาจบังคับให้นิสิตมาแบกเสลี่ยง จากกรณีที่ให้นิสิตที่อยู่หอในมาร่วมกิจกรรมเพื่อแลกกับคะแนนการคัดเลือกให้มีสิทธิ์อยู่หอพัก
คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวขัดต่อหลักประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน ที่ประชุมจึงมีมติ 29 : 0 เห็นควรให้ยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือกผู้อัญเชิญพระ-เกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ “เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมมิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป” พร้อมทิ้งท้ายในแถลงการณ์ว่า “ให้คนเท่ากัน”
อ้างอิงจาก
https://web.facebook.com/…/a.23594286…/4563958886980746/