ซุกผงขาวในไม้อัด ยาไอซ์เหลวในกล่องกุ้งแช่แข็ง เฮโรอีนในเครื่องกรองน้ำ ข่าวยาเสพติดเหล่านี้ที่ผ่านตาตลอดทั้งปี 2564 ทำให้ชวนคิดเหมือนกันว่า ทำไมปีนี้ตลาดยาเสพติดไทยท็อปฟอร์มเหลือเกิน สาเหตุมาจากอะไร หรือที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ไทยหรอกที่ท็อปฟอร์ม
.
The MATTER เคยเขียนไว้ในบทความ ‘ยาเสพติดรอการทะลัก’ ความเงียบที่รอปะทุของขบวนขนยาและปัญหาน่าเวียนหัวของไทยหลังยุค COVID’ โดยในรายงานของ UNODC ปี 2020 ระบุว่า ขณะที่ตลาดยาเสพติดทั่วโลกกำลังถดถอย ภูมิภาคเดียวที่จำนวนยาเสพติดยังคงที่ชนิดหาไม่ได้ยากตามร้านตลาดคือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแน่นอนว่าไทยเป็นหนึ่งในนั้น
.
กระทรวงยุติธรรมยอมรับว่าตั้งแต่ปี 2562 ปริมาณยาเสพติดที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยมีมากขึ้นทุกที โดยสำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เผยสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศตั้งแต่เดือน ต.ค. 63 – มิ.ย. 64 พบว่ามียาบ้า 344 ล้านเม็ด, ไอซ์ 20,662 กก., เฮโรอีน 2,760 กก., ยาอี 279,868 เม็ด และยังมีกัญชา โคเคน รวมถึงเคตามีนอีกจำนวนมาก
.
นอกจากนี้ ป.ป.ส. ยังเผยว่ามีคดียาเสพติดที่เตรียมส่งออกจากไทยไปต่างประเทศได้ 84 คดี และคดีที่จับได้ในต่างประเทศ แต่ถูกส่งมาจากไทยอีก 21 คดี ตรงนี้ต้องอธิบายนิดนึง โดยกลุ่มหลักๆ ที่ลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกประเทศไทยมีด้วยกัน 3 กลุ่มตามที่ ป.ป.ส. ชี้แจง ได้แก่ กลุ่มชาวแอฟริกันตะวันตก, กลุ่มชาวต่างชาติที่ลักลอบส่งเอง และแน่นอน กลุ่มคนไทยที่ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์
.
คำถามตามมาคือ ทำไมถึงมีคดียาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับไทยมากมายขนาดนี้? คำตอบที่ดีเลยคือ เรื่องภูมิศาสตร์ เพราะนอกจากที่ตั้งของไทยมีอาณาเขตทางบกติดกับหลายประเทศแล้ว เรายังมีทางออกสู่ทะเลหลายทางด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคก็ว่าได้
.
ที่สำคัญ ทางตอนเหนือของไทยในจังหวังเชียงราย อำเภอเชียงแสน ยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ “สามเหลี่ยมทองคำ” ซึ่งติดกับทางตะวันออกของลาว และรัฐชานของเมียนมา โดยเฉพาะรัฐชานนี่เอง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตแอมเฟตามีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงผลิตฝิ่นอันดับสองรองจากพื้นที่พระจันทร์เสี้ยว หรือแถบตะวันออกกลาง
.
อย่างไรก็ตาม หลายคนคงคิดในใจว่า ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้การเดินทางยากขึ้น ทำไมยาเสพติดจากไทยที่ไหลผ่านและถูกส่งจากไทยถึงยังมีมากอยู่ คำตอบเรื่องนี้มี 2 ประการ
.
หนึ่ง ความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กองทัพเมียนมาได้รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจนเกิดการกวาดล้างจากทางกองทัพ ความไม่พอใจรัฐบาลทหารทำให้ชาวบ้านและปัญญาชนบางส่วนตัดสินใจเข้าป่า จับอาวุธ เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธเพื่อต่อต้านรัฐบาล ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์บางส่วนก็ประกาศตัวสนับสนุนรัฐบาล จนเกิดการปะทะกันหลายต่อหลายครั้ง
.
ความวุ่นวายทางการเมืองนี่เอง เป็นจังหวะดีของผู้ผลิตยาเสพติดทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลรัฐประหารใช้โอกาสเพิ่มจำนวนการผลิตยาเสพติด โดย ป.ป.ส. รายงานว่านับตั้งแต่เดือน ก.พ. – ก.ย. สามารถยึดยาบ้าได้กว่า 330 ล้านเม็ด หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จับกุมยาไอซ์ได้มากถึง 15 ตัน ถ้าสงสัยว่าปริมาณนี้เยอะแค่ไหม เอาเป็นว่าเท่ากับรถเมล์คันหนึ่งเลย
.
ทั้งนี้ แค่ในเดือน ก.พ. – เม.ย. หรือสามเดือนหลังการรัฐประหาร จากทั้งหมด 30 คดี ไทยจับยาบ้าได้มากถึง 26.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 810.8 กก. เฮโรอีก 630.3 กก. คีตามีน 56 กก. และฝิ่นดิบอีก 137 กก.
.
สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลการยึดอำนาจทำให้หน่วยงานด้านยาเสพติดในเมียนมาหยุดรายงานผลการปฏิบัติงาน ขณะที่สหประชาชาติซึ่งทำหน้าที่ประสานงานในภาพรวม ก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับรัฐบาลทหารเช่นกัน
.
“ผมคิดว่ารัฐประหารทำให้เกิดภาวะ Perfect Strom และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ได้อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ” ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ จาก International Crisis Group กล่าวกับสำนักข่าว Financial Times ถึงผลของการรัฐประหารต่อตลาดยาเสพติดในเมียนมา และเสริมว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเบนความสนใจจากคดียาเสพติด รวมถึงปัญหาความขัดแย้งที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐทำงานไม่ได้ ทั้งนี้ ไม่ใช่พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเท่านั้น ที่ได้ประโยชน์จากควาระส่ำระส่ายทางการเมือง ในอัฟกานิสถานเองก็มีรายงานการผลิตยาเสพติดเพิ่มขึ้นมาก หลังถูกกลุ่มตาลีบันยึดอำนาจ
.
สอง COVID-19 รายงานของ UNODC ระบุว่าโรคระบาดทำให้อัตราการขนยาลดลงจริงในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับดีดตัวมาสู่ภาวะเดิม และมีแนวโน้มมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ สาเหตุหนึ่งคือความจนที่ขยายตัวกว้างขึ้น และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น นอกจากความจนทำให้คนหันมาใช้ยาเสพติดจนวันหนึ่งแปลงตัวเองเป็นผู้ขายด้วยแล้ว เทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนาขึ้น ยังทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงยาเสพติด และผู้ขายมีช่องทางปล่อยยาเสพติดได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ซึ่งตรงกับที่ ป.ป.ส. ชี้ว่า เฟซบุ๊กและไลน์ กลายเป็นช่องทางใหม่สำหรับผู้ขายและผู้เสพในการเข้าถึงยาเสพติด
.
มาตรการปิดประเทศเองก็มีส่วน ถึงแม้ในทางหนึ่งมันจะทำให้พ่อค้ายาลำบากในการขนส่ง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันทำให้ยาเสพติดเกรดเอมีราคาถูกลง เข้าถึงง่ายขึ้น จนทำให้มีผู้เสพยารายใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น และเกิดเป็นวัฏจักรทั้งค้าทั้งเสพต่อเนื่อง โดย ป.ป. ส. เผยว่าราคาของไอซ์และยาบ้าในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้วอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยไอซ์ลดจาก 1,000 – 2,000 บาท/ กรัม เป็น 500 – 1,000 บาท/ กรัมในปีนี้ ขณะที่ยาบ้าลดจาก 100 บาท/ เม็ด เหลือ 50 – 100 บาท/ เม็ดเท่านั้น
.
ปัญหาต่อเนื่องจากโรคระบาดที่สัมพันธ์กับยาเสพติดอีกข้อคือ โรคระบาดทำให้หน่วยงานแถวชายแดนต้องรับผิดชอบงานหนักขึ้น กล่าวคือต้องช่วยทั้งควบคุมโรค ดูแลการเข้าออกของคน และยังต้องคอยติดตามคดียาเสพติดอีก จนไม่แปลกที่จะเกิดภาวะ Huan Error จากความเหนื่อยล้า และเปิดช่องทางให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดใช้เป็นข้อได้เปรียบ
.
ยาเสพติดไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดโดดๆ มันมีความซับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับความยากจน คอรัปชั่น ไปจนถึงวิกฤตการเมืองของนานาประเทศอย่างแยกไม่ออก ดังนั้น ก้าวแรกในการต่อสู้กับมันอาจไม่ใช่มองมันว่าเป็นปีศาจร้าย แต่เริ่มจากมองมันอย่างมันเป็นจริงๆ และใช้ความรู้เป็นโคมไฟปัดเป่าความอันตรายจากมันต่างหาก
อ้างอิง:
https://thaipublica.org/2021/05/drug-market-during-the-covid-crisis/
https://www.thairath.co.th/news/crime/2110151
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/48818
https://asia.nikkei.com/Spotlight/Myanmar-Crisis/Myanmar-coup-provides-drug-traffickers-with-ideal-conditions
https://www.ft.com/content/2e9ee221-cba4-483d-8799-c2a356af4cb4
https://www.irrawaddy.com/opinion/guest-column/new-regime-same-old-drug-myths-in-myanmar.html