นับตั้งแต่พบการระบาดของ COVID-19 ครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อช่วงปลายปี 2019 ก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่โลกต้องต่อสู้กับโรคระบาดชนิดนี้ มิหนำซ้ำยังต้องเจอกับสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนหลายๆ คนก็ยังมองแนวโน้มการระบาดอย่างไม่ค่อยสู้ดีนัก
แต่ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยในคำแถลงปีใหม่และในข้อเขียนส่วนตัวบนเว็บไซต์ LinkedIn ว่า เขาเชื่อว่ามนุษย์จะสามารถเอาชนะ COVID-19 ได้ ตราบเท่าที่ประชาคมโลกร่วมมือกัน
กีบรีเยซุส ให้เหตุผลว่า มนุษย์มีพร้อมทั้งเครื่องมือและทรัพยากรในการที่จะหยุดโรคระบาดได้ เช่น ที่ผ่านมา ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ได้ทำให้เรามีวัคซีนมากกว่า 10 ชนิดที่ผ่านการรับรองให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินโดย WHO ขณะที่ทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนไปมากกว่า 8.5 พันล้านเข็ม และยังมีวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมาก
กีบรีเยซุสจึงมองว่า สิ่งที่สำคัญคือ มนุษย์ต้องมีเจตจำนงมากพอที่จะหยุดการระบาด พร้อมเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการลดระดับความเหลื่อมล้ำ และการละทิ้งแนวทางชาตินิยมที่เอาประเทศของตัวเองเป็นหลัก เช่น การกักตุนวัคซีน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมโรคระบาด โดยเขาได้ประกาศว่า “ถ้าเราหยุดความเหลื่อมล้ำได้ เราก็จะหยุดโรคระบาดได้”
นอกจากนี้ กีบรีเยซุสยังเปิดเผยอีกว่า New Year’s resolution ของเขาก็คือ ทำงานร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อยุติโรคระบาด โดยจะช่วยให้มีการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากรทั่วโลกในช่วงกลางปี 2022 ขณะเดียวกัน WHO ก็จะพยายามสร้างกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะรองรับความมั่นคงทางสุขภาพของทั่วโลกได้มากขึ้น และสุดท้ายคือ เขาจะทำให้ทุกๆ ประเทศลงทุนในระบบบริการสุขภาพพื้นฐานให้มากขึ้น
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-59840513
https://www.linkedin.com/pulse/my-hope-ending-covid-19-pandemic-2022-tedros-adhanom-ghebreyesus/