ผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ต่อปัญหาการเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัย ทำให้ตัวแทนนิสิตนักศึกษาจาก 12 มหาวิทยาลัยเข้ายื่นหนังสือต่อผู้เกี่ยวข้อง ขอให้ช่วยผลักดันมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ลดภาระค่าใช้จ่าย และแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในการเรียน
โดยวันที่ 26 ม.ค.2565 ฐิติ ชิวชรัตน์ ประธานสภานิติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ รวม 12 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.มหิดล ม.เชียงใหม่ ม.นเรศวร ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ม.บูรพา มศว ม.สงขลานครินทร์ ม.นวมินทราธิราช ม.อัสสัมชัญ และ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน รวมถึงกลุ่ม Thai STF Claim เข้ายื่นหนังสือต่อเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษาฯ รวมถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียนของนิสิตนักศึกษาซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรค COVID-19 จำนวน 3 ข้อ ดังนี้
1.) ขอให้ทบทวนมาตรการลดค่าเทอมของมหาวิทยารัฐและในกำกับของรัฐอย่างน้อย 20% โดยในกรณีไม่สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้เลย อยากให้ลดอย่างน้อย 50% และขอให้พิจารณาลดค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเอกชนเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้วยการศึกษา ไปจนกว่าวิกฤตโรค COVID-19 จะสิ้นสุด
2.) ขอให้จัดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถเข้าใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการเรียนและการจัดกิจกรรม เช่น เร่งฉีดวัคซีนแก่นิสิตนักศึกษาที่ยังได้รับไม่ครบโดสหรือฉีดเข้มกระตุ้นให้กับคนที่ได้รับวัคซีนครบโดสเกิน 16 สัปดาห์เป็นต้นไป สนับสนุนชุดตรวจ ATK เปิดพื้นที่มหาวิทยาลัยให้เข้าใช้ได้โดยมีการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น
3.) ขอให้จัดให้มีสัปดาห์ผักผ่อน (relax week) ในปฏิทินการศึกษา 2 ครั้งต่อภาคการศึกษา ก่อนสอนกลางภาคและปลายภาค สำหรับผ่อนคลายจากภาระการเรียน และต้องดูแลสุขภาพจิตของนิสิตนักศึกษาอย่างใกล้ชิด โดยจัดให้มีนักจิตวิทยาประจำมหาวิทยาลัย 1 คน ต่อนิสิตนักศึกษา 1,500 คน ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมตามงานวิจัย
- ดูหนังสือข้อเรียกร้องฉบับเต็มได้ที่: https://drive.google.com/file/d/1kbEp1nyNZD2wC4DOxPv6GPLjKTu-WL3w/edit
#Brief #TheMATTER