เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้เกิดเหตุท่อน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเลบริเวณอ่าวมาบตาพุด จ.ระยอง ส่งผลให้น้ำมันรั่วไหลกว่า 1.2 แสนลิตร คราบน้ำมันแผ่ขยายในอ่าวไทยเป็นพื้นที่กว่า 47 ตารางกิโลเมตรในวันนี้ (28 ม.ค.) และมีการคาดการณ์ว่าแพของคราบน้ำมันจะลอยถึงชายฝั่ง จ. ระยอง ในวันนี้
โดยเมื่อวานนี้ GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ก็ได้เปิดเผยภาพจากดาวเทียม TerraSAR-X ที่ถ่ายเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 18.23 น. เพื่อติดตามการแผ่ขยายของคราบน้ำมัน
GISTDA ระบุว่า “ล่าสุดพบคราบน้ำมันลอยแผ่เป็นบริเวณกว้างกว่าเดิม (กรอบสีแดง) คิดเป็นพื้นที่ 47 ตารางกิโลเมตร (29,506 ไร่) หรือกว่า 9 เท่าของเกาะเสม็ด และมีทิศทางเคลื่อนที่ไปทางทิศด้านตะวันออกเฉียงเหนือ (จากจุดเดิม)
“ซึ่งคราบน้ำมันดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลของอำเภอเมืองระยอง ประมาณ 6.5 กิโลเมตร และห่างจากเกาะเสม็ด ประมาณ 12 กิโลเมตร และคาดว่าคราบน้ำมันจะขึ้นฝั่งในวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 (จุดสีน้ำเงิน และสีส้ม) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งเมืองระยอง ชายหาดแม่รำพึง และพื้นที่ชายหาดใกล้เคียง
“โดยข้อมูลจากการวิเคราะห์ ทาง GISTDA จะส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้วางแผน ติดตาม ตรวจสอบในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ การประเมินคราบน้ำมันจากภาพถ่ายดาวเทียมระบบ SAR (X-Band) เป็นการประมาณจากขอบเขตพื้นที่ ส่วนปริมาตรของน้ำมัน (ความหนาของชั้นน้ำมัน: Oil Thickness) อาจต้องใช้ข้อมูลจากการเก็บข้อมูลในพื้นที่จริง”
ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพร่องรอยน้ำมันบริเวณชายฝั่ง จ.ระยอง พร้อมระบุว่า “คราบน้ำมันจ่ออยู่รอบๆ ชายฝั่งระยองแล้วครับ เมื่อเช้าคณะประมงลองส่งโดรนสำรวจ พบตั้งแต่ระยะ 1 กม. เรื่อยไปถึงบางจุดที่เข้าใกล้ฝั่งมาก มาเป็นหย่อมๆ ตอนเที่ยงน้ำจะลงต่ำ บ่ายขึ้นอีกครั้ง ลมแรงขึ้น คลื่นเริ่มมา อาจเริ่มเห็นผลชัดขึ้น”
ผศ.ดร.ธรณ์ ยังอธิบายอีกว่า คราบน้ำมันจะทยอยเข้าฝั่งเรื่อยๆ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และไหลตามกันมา โดยน่าจะเข้ามาเที่ยง–บ่าย ของวันนี้ ส่วนวันเสาร์น่าจะมีลมแรงกว่าวันอื่น เมื่อถึงชายฝั่ง แพอาจเทออกไปทางทิศตะวันออกบริเวณก้นอ่าวเสม็ด ทำให้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง และต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
อ้างอิงจาก
https://www.gistda.or.th/news_view.php?n_id=5465
https://www.facebook.com/thon.thamrongnawasawat/posts/5540938235921334
https://www.facebook.com/thon.thamrongnawasawat/posts/5542909929057498