“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ท่านพร้อมแล้วหรือหากจะต้องยุบ UN?”
โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ถามที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
“ถ้าคำตอบของท่านคือไม่ ท่านต้องลงมือทำอะไรบางอย่างตอนนี้ เดี๋ยวนี้”
เมื่อวานนี้ (5 เม.ย. 2565) เซเลนสกีกล่าวแถลงทางไกลกับที่ประชุม UNSC ณ นครนิวยอร์ก หนึ่งวันหลังจากที่เขาไปเยือนเมืองบูชา ซึ่งปรากฏหลักฐานการสังหารหมู่พลเรือนโดยรัสเซีย ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนกว่า 300 คน จากการเปิดเผยของนายกเทศมนตรีเมืองบูชา
The MATTER สรุปประเด็นต่างๆ ที่ปรากฏในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดียูเครน มาให้ดังนี้
1. การสังหารหมู่พลเรือนโดยรัสเซีย ไม่ต่างอะไรกับผู้ก่อการร้าย ISIS
นั่นคือสิ่งแรกที่เซเลนสกีกล่าวกับที่ประชุม
เขากล่าวหารัสเซียว่า “กองทัพรัสเซียมองหาและเจตนาสังหารใครก็ตามที่รับใช้ชาติของเรา” และบอกว่ารัสเซียได้ก่อ ‘อาชญากรรมสงคราม’ มาแล้วครบทุกรูปแบบในเมืองบูชา
“มันต่างอะไรกับสิ่งที่ผู้ก่อการร้าย ISIS ทำในดินแดนที่ถูกยึดครอง?” เขาถาม ก่อนจะบอกว่า “ยกเว้นเพียงแต่ครั้งนี้ มีผู้กระทำเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC”
2. ยังมีอีกหลายเมืองในยูเครน ที่พลเรือนต้องเผชิญชะตากรรมไม่ต่างจากเมืองบูชา
เซเลนสกีบอกว่า “ช่างโชคร้าย การสังหารในเมืองบูชาของเราเป็นพียงแค่หนึ่งในตัวอย่างของสิ่งที่ผู้รุกรานกระทำกับดินแดนของเราใน 41 วันที่ผ่านมา
“ยังมีอีกหลายๆ เมืองที่โลกยังไม่พบความจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมารีอูปอล คาร์คิฟ เชอร์นิฮิฟ ออคตีร์กา โบโรเดียนกา และชุมชนอีกหลายๆ แห่งในยูเครน ที่ไม่ต่างอะไรกับบูชา”
เขาชี้ว่า ทุกคนรู้ว่ารัสเซียจะพูดอะไรออกมา หรือจะหันมาโทษคนอื่นอย่างไร เพื่อปัดความรับผิดชอบของตน แต่เขาก็บอกด้วยว่า “ตอนนี้คือปี 2022 แล้ว มันมีหลักฐานยืนยันชัดเจน มีภาพจากดาวเทียม” และหากจะจัดให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใสและเต็มรูปแบบ ก็เป็นสิ่งที่ย่อมจะทำได้
3. นั่นแสดงให้เห็นว่า UN ไม่มีประสิทธิภาพ และต้องปฏิรูป UN เพื่อให้รักษาความมั่นคงได้อย่างแท้จริง
หลังจากสาธยายถึง ‘อาชญากรรมสงคราม’ ที่เกิดขึ้นบนดินแดนยูเครน เซเลนสกีก็หันมาวิพากษ์วิจารณ์ UN
เขาชี้ว่า เรากำลังรับมือกับรัสเซียในฐานะสมาชิกถาวรของ UNSC ซึ่งมีสิทธิ ‘วีโต้’ (veto) หรือสิทธิยับยั้งการออกข้อมติของ UNSC และรัสเซียก็กำลังใช้สิทธินั้น เพื่อใช้ ‘สิทธิในการฆ่า’ เป็นผลตามมา
เซเลนสกีจึงบอกว่า “ระบบของ UN ต้องได้รับการปฏิรูปโดยทันที เพื่อไม่ให้สิทธิวีโต้แปรเปลี่ยนไปเป็นสิทธิในการฆ่า รวมถึงเพื่อให้มีผู้แทนจากทุกๆ ภูมิภาคของโลกอย่างเป็นธรรมในคณะมนตรีความมมั่นคง”
เขาบอกอีกว่า ถ้าประชาคมโลกสามารถบังคับให้เกิดสันติภาพได้จริงๆ การสังหารหมู่ในซีเรีย โซมาเลีย อัฟกานิสถาน เยเมน และลิเบีย ก็คงจะไม่ต้องเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
“สิ่งสำคัญคือ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงระบบ ที่มี UN เป็นแก่นกลาง” ซึ่งเซเลนสกีเสนอว่า หากจะทำได้ ก็ต้องจัดให้มีการประชุมบนเวทีโลก เพื่ออภิปรายว่าทำอย่างไร UN จึงจะรับประกันสันติภาพได้จริง
4. นอกจากการปฏิรูป UN เซเลนสกียังเรียกร้องให้นานาชาตินำรัสเซียขึ้นสู่ศาลระหว่างประเทศ เพื่อไต่สวนอาชญากรรมสงคราม
เขาเสนอว่า หากจะหยุดรัสเซียได้ จะต้องนำกองทัพรัสเซียและผู้บังคับบัญชาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจากการก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
“ใครก็ตามที่สั่งการให้ก่ออาชญากรรม และใครก็ตามที่สนองคำสั่งด้วยการสังหารผู้คน จะต้องเผชิญกับการพิจารณคดี คล้ายคลึงกับการไต่สวนที่เมืองนูเรมเบิร์ก” ซึ่งหมายถึงการไต่สวนอาชญากรรมของฝ่ายนาซีภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด
“จะไม่มีผู้กระทำผิดคนใดหลบหนีได้แม้แต่คนเดียว ไม่มีเลย” เซเลนสกีย้ำกับที่ประชุม
อ้างอิงจาก
https://www.president.gov.ua/en/news/vistup-prezidenta-ukrayini-na-zasidanni-radi-bezpeki-oon-74121
https://edition.cnn.com/2022/04/05/world/zelensky-ukraine-united-nations-speech-intl/index.html
https://www.theguardian.com/us-news/2022/apr/05/volodymyr-zelenskiy-un-security-council-sketch