หากดูภาพจากดาวเทียมในบริเวณลุ่มน้ำเอียร์ปิน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ จะพบว่ามีน้ำท่วมขนานใหญ่ตามหมู่บ้านและที่ราบ ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่รัสเซียเริ่มส่งกองกำลังบุกยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าฝ่ายใดเป็นคนทำ
ล่าสุด มีรายงานของ The New York Times ระบุว่า ฝ่ายยูเครนจงใจทำให้น้ำท่วมหมู่บ้านเดมีดีฟ (Demydiv) ของฝั่งตัวเอง เพื่อขัดขวางไม่ให้รถถังรัสเซียเคลื่อนเข้ามาและเดินหน้าต่อสู่กรุงเคียฟได้
รายงานชี้อีกว่า นอกจากจะช่วยปกป้องกรุงเคียฟแล้ว ยุทธวิธีการปล่อยน้ำท่วมอย่างที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเดมีดีฟ ยังทำให้หมู่บ้านดังกล่าวรอดพ้นจากการเป็นแนวรบในสงคราม และการสังหารหมู่พลเรือนแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในเมืองบูชา (Bucha) ใกล้เคียงกับกรุงเคียฟ (Kyiv)
“ทุกคนเข้าใจดี และไม่มีใครเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว” อันโตนินา โคสทูเชงโก ชาวบ้านในพื้นที่ ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times “เราปกป้องเคียฟได้แล้ว!” ขณะที่ โวโลดิเมียร์ อาเทมชุก จิตอาสาที่ช่วยเปิดปั๊มน้ำ ระบุว่า มีบ้านที่โดนน้ำท่วมไปประมาณ 50 หลัง ซึ่งเขาก็บอกว่า “ไม่ใช่ความเสียหายที่มากมายอะไร”
นอกจากการปล่อยน้ำท่วมหมู่บ้านเดมีดีฟ ยังมีอีกหลายกรณีที่ฝ่ายยูเครนใช้ยุทธวิธีคล้ายๆ กัน นั่นคือการทำลายโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ตัวเองเพื่อขัดขวางกองทัพรัสเซีย เช่น สะพานที่ถูกทำลายไปมากกว่า 300 แห่งแล้ว จากข้อมูลโดย โอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน
หรืออย่างในกรณีของสนามบินโฮสโตเมล ใกล้เคียงกับกรุงเคียฟ ที่หลายคนอาจจะจำกันได้ว่ากองทัพรัสเซียเริ่มบุกยึดตั้งแต่วันแรกๆ ของการรุกรานยูเครน ก็มีรายงานว่า กองทัพยูเครนได้ทิ้งระเบิดถล่มรันเวย์เพื่อสร้างความเสียหาย ไม่ให้เครื่องบินรัสเซียมาลงจอดได้
ในเรื่องนี้ ร็อบ ลี นักวิชาการอาวุโสประจำสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ (FPRI) ในสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นว่า “ชัดเจนว่าชาวยูเครนมีความคิดสร้างสรรค์มาก ในการทำให้ชีวิตของคนรัสเซียยากลำบากยิ่งกว่าเดิม”
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2022/04/27/world/europe/ukraine-russia-war-flood-infrastructure.html