วันนี้ (7 เม.ย. 2565) สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ได้กลับมาจัดประชุมในวาระพิเศษเร่งด่วนครั้งที่ 11 (Eleventh Emergency Special Session) และได้มีมติให้ขับรัสเซียพ้นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human Rights Council) ด้วยคะแนนเห็นชอบ 93 เสียง ไม่เห็นชอบ 24 เสียง และงดออกเสียง 58 เสียง
ในการลงมติครั้งนี้ ไทยไม่ได้ลงมติเห็นชอบเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่เป็น 1 ใน 58 ประเทศที่งดออกเสียง เช่นเดียวกับกัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น
ขณะที่ 24 ประเทศที่ลงมติไม่เห็นชอบ ประกอบไปด้วยประเทศอย่าง จีน คิวบา เอริเทรีย เอธิโอเปีย ลาว เวียดนาม ซีเรีย เบลารุส และรัสเซีย เป็นต้น
ร่างข้อมติที่ผ่านการเห็นชอบ คือ ร่าง A/ES-11/L.4 ซึ่งระบุถึงสาระสำคัญอย่างเรียบง่ายว่า สมัชชาใหญ่ฯ “ตัดสินใจระงับสิทธิในสมาชิกภาพในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ของสหพันธรัฐรัสเซีย”
ร่างข้อมตินี้ยังระบุด้วยว่า สมัชชาใหญ่ฯ “แสดงความกังวลอย่างยิ่ง” ต่อวิกฤตมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน และโดยเฉพาะรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศโดยรัสเซีย
สำหรับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ เป็นองค์การภายใต้สหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และสอดส่อง–ยับยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประกอบด้วยสมาชิก 47 ประเทศที่มาจากการเลือกตั้งของสมัชชาใหญ่ฯ โดยมีวาระละ 3 ปี
ก่อนหน้านี้ เคยมีการระงับสมาชิกภาพในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ เพียงแค่ครั้งเดียว คือ กรณีของลิเบียเมื่อปี 2011 หลังจากที่มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม โดยกองกำลังภายใต้บังคับบัญชาของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียในขณะนั้น
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=9FGQiXVy-rE
https://documents-dds-ny.un.org/doc/UNDOC/LTD/N22/310/50/PDF/N2231050.pdf