“ฉันจะให้คำแนะนำในชีวิตแก่พวกคุณยังไงดีนะ? ฉันคงไม่ทำแบบนั้น แต่ข่าวร้ายคือ ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองแล้ว ส่วนข่าวที่เจ๋งที่สุดคือ คุณเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองแล้ว”
ในวันนี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักแต่งเพลงชาวอเมริกันได้รับเกียรติให้ขึ้นรับปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ระดับปริญญาเอก สาขาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และได้ถูกเชิญขึ้นมาพูดสุนทรพจน์แด่นิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์คทุกคน
เธอเริ่มต้นด้วยประโยคว่า “ขอให้ฉันพูดว่า ยินดีต้อนรับทุกคนสู่นิวยอร์ค เมืองนี้กำลังรอทุกคนอยู่” ถึงแม้จะเป็นเจ้าของเพลงหลากหลายแนวตั้งแต่ โฟล์ค, คันทรี่ หรือป็อป ผ่านการออกอัลบั้มมาถึง 11 อัลบั้ม แต่เธอก็ยังกล่าวย้ำอยู่หลายครั้งว่า เธอไม่คุ้นกับการให้คำแนะนำในชีวิตใครเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เธอจะพยายาม และนี่คือคำแนะนำที่ เทย์เลอร์ อยากมอบให้แก่นิสิตนักศึกษาทุกคนก่อนออกไป
#เราไม่ได้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
“ไม่มีใคนที่ยืนตรงนี้ทำสำเร็จด้วยตัวคนเดียว เราต่างเป็นผ้านวมที่ถูกเย็บขึ้นจากความรัก คนที่เชื่อในอนาคตของเรา และคนที่แสดงความจริงใจและเห็นใจ หรือพูดกับความจริงแก่เราในเวลาที่ยากเย็นที่สุด”
เทย์เลอร์ กล่าวเช่นนั้นก่อนพูดขอบคุณไปยังครอบครัวของเธอ ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อให้เธอเปลี่ยนจากนักร้องในคาเฟ่ต์และได้รับปริญญาบัตรระดับดอกเตอร์เช่นวันนี้ และเธอหวังว่าทุกคนที่ฟังเธออยู่ “จะสามารถหาวิธีแสดงความซาบซึ้งต่อทุกก้าวที่สำเร็จและผิดพลาด” ไปยังคนที่รักได้เช่นกัน
#ไม่มีใครได้ทุกสิ่งที่หวังไว้
เทย์เลอร์ เล่าว่าตั้งแต่เด็ก เธอวาดฝันว่าจะได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีชีวิตที่สนุกสนาน และมีความรักกับใครสักคน แต่ในความเป็นจริงทุกสิ่งต่างออกไป เช่นเดียวกับเพื่อนบัณฑิตทุกคนที่ในช่วงเวลาของการระบาดของ COVID-19 ไม่ได้เจอเพื่อนมหาวิทยาลัย ต้องทนเรียนออนไลน์ และถูกบังคับให้อยู่แต่ในหอพัก อย่างไรก็ตาม เธออยากให้ทุกคนยินดีกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และพาเรามาถึงความสำเร็จในวันนี้
#รู้จักเก็บบางสิ่งและปล่อยบางสิ่ง
“ชีวิตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะถ้าคุณพยายามจะถือทุกอย่างเอาไว้” ริมฝีปากสีแดงของเธอหยุดชั่วครู่ ก่อนขยับกล่าวต่อ “ส่วนหนึ่งของการเติบโตและเคลื่อนสู่บทใหม่ของชีวิตคือ รู้จักเก็บและปล่อย ฉันหมายถึงว่าคุณควรเรียนรู้ว่าควรจะเก็บอะไรไว้ และอะไรที่คุณควรโยนทิ้งไป”
“คุณไม่สามารถเก็บทุกอย่างเอาไว้ ความโกรธแค้น ความเป็นไปของแฟนเก่า หรือความอิจฉาเมื่อเห็นคนที่เคยบูลลี่คุณได้รับการเลื่อนขั้น ขอให้เลือกว่าจะเก็บสิ่งใดไว้ และโยนที่เหลือทิ้งให้หมด” เธอกล่าว
#เรียนรู้ที่จะอยู่กับความอับอาย
“ไม่ว่าคุณพยายามแค่ไหนที่จะหลีกหนีความอับอาย เมื่อคุณโตขึ้นและมองกลับไป คุณจะมองชีวิตที่ผ่านมาด้วยความอับอายอยู่ดี (หัวเราะ) ความอับอายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แม้แต้ ‘ความอับอาย’ ในตัวมันเอง เมื่อถึงวันหนึ่งมันก็ถือว่า ‘น่าอับอาย’ ได้เช่นกัน”
เทย์เลอร์ เปรียบเทียบเรื่องนี้กับสิ่งที่เรากำลังทำหรือสวมใส่อยู่ในวันนี้ ที่เมื่อเรากลับมามองดูมันอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป มันอาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองและเสื้อผ้าที่ใส่น่าขำสิ้นดี แต่ “คุณหนีมันไม่พ้น ดังนั้น ไม่ต้องพยายามแบบนั้น” เธอกล่าวว่า “อย่าอายที่จะพยายาม ความง่ายดายเป็นเรื่องลึกลับ คนที่ต้องการมันน้อยที่สุดคือคนที่ฉันอยากออกเดตและเป็นแฟนในช่วงไฮสคูล ขณะที่คนที่ต้องการมันมากที่สุดคือ คนที่กำลังเป็นลูกจ้างให้บริษัทฉัน”
#ความผิดพลาดไม่ใช่ความล้มเหลว และโลกยังไม่แตกสักหน่อย
เทย์เลอร์ แชร์ประสบการณ์ความสำเร็จของเธอตั้งแต่อายุ 15 ให้ฟังว่า “ในฐานะคนที่เริ่มชีวิตสาธารณะตั้งแต่อายุ 15 มันมาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย และราคานั้นคือคำแนะนำมากมายที่ฉันไม่พึงประสงค์” เธอเล่าว่าเมื่อสมัยเธอเริ่มดังใหม่ๆ เธอเหมือนถูกเปรียบให้เป็นต้นแบบและถูกคาดหวังอย่างสูงจากทุกคน เธอรู้สึกเหมือนกับว่า “ถ้าฉันไม่ทำอะไรที่ผิดพลาด เด็กทุกคนในอเมริกาจะเติบโตเป็นนางฟ้าที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าฉันพลาด ทั้งโลกจะแตกออก และทุกอย่างจะกลายเป็นความผิดของฉันตลอดไป” เธอกล่าวว่า เราทุกคนถูกสอนให้เชื่อว่า ความผิดพลาดเท่ากับความล้มเหลว และถึงที่สุด เราจะเสียโอกาสในการมีความสุขและรับรางวัลในชีวิตทั้งหมดไป
“แต่ประสบการณ์ส่วนตัวฉันไม่ได้บอกแบบนั้น มันบอกว่าความผิดพลาดคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน” เธอยิ้มต้อนรับเสียงปรบมือ “ความอับอายที่คุณพบ มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ ลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากตัว และมองรอบตัวว่าใครยังอยากออกไปเที่ยวและระเบิดเสียงหัวเราะให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณบ้าง? นั่นคือของขวัญ”
เมื่อเราสูญเสีย เรากำลังได้รับกลับมาเช่นกัน – “ในชีวิตของคุณ เป็นไปไม่ได้เลยที่พูดผิด เชื่อคนผิด แสดงความรู้สึกน้อยหรือมากเกินไป ทำร้ายคนที่ไม่สมควรทำร้าย คิดมากเกิน ไม่คิดอะไรเลย.. และฉันจะไม่โกหกว่าความผิดพลาดเหล่านี้ทำให้คุณพลาดบางอย่าง” เธอทิ้งจังหวะ ก่อนกล่าวต่อ “แต่ฉันกำลังบอกคุณว่า เมื่อคุณสูญเสียบางอย่าง มันไม่ใช่การสูญเสียทุกครั้ง เพราะหลายครั้งที่เราสูญเสีย เราได้บางอย่างคืนมาเช่นกัน”
“บางครั้งสิ่งที่ถูกต้องคือนั่งลงและขอโทษ บางครั้งคือการยืดหยัดต่อสู้ บางครั้งต้องหันหลับแล้ววิ่งหนี… แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเลือกไหนที่ถูกต้อง? ไม่คุณไม่มีทางเลย” เธอกล่าวต่อว่า “แล้วฉันจะให้คำแนะนำอะไรแก่คนเหล่านี้ดีล่ะ? ฉันจะไม่ทำแบบนั้นหรอก ข่าวที่น่ากลัวคือ ชีวิตเป็นของคุณ และข่าวที่เจ๋งที่สุดก็คือ ชีวิตเป็นของคุณ”
“ฉันขอฝากพวกคุณว่า พวกเราล้วนถูกเคลื่อนด้วยสัญชาติญาณ ความอยากและความกลัว บาดแผลและความฝัน และบางครั้งพวกเราก็ทำมันพังทั้งหมด เช่นเดียวกับฉัน” เธอทิ้งท้ายว่า “สิ่งยากมากมายจะเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่เราจะฟื้นตัว เรียนรู้จากมัน และจะเติบโตมากข้ึนเพราะสิ่งเหล่านั้น”
อ้างอิง: