ในช่วงเช้าของวันนี้ (4 มิ.ย.) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรม Pride Month บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยได้ยืนยันว่าจะสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ และสร้างเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคนให้สำเร็จ โดยเขาระบุว่าตอนนี้ได้มีการอบรมเพื่อให้ข้าราชการ กทม. เข้าใจถึงความหลากหลายทาเพศและเรื่องพลเมืองโลก อนุญาตให้ข้าราชการแต่งกายตามเพศวิถี รวมถึงสนุบสนุนให้พัฒนาระบบสาธารณสุขสำหรับกลุ่มหลากหลายทางเพศ อาทิ คลินิคแนะนำการให้ฮอร์โมน
“Pride Month ในมิติของความคิดไม่ใช่แค่ความหลากหลายทางเพศ แต่มันคือการยอมรับความหลากหลายในทุกมิติ ผมว่ารวมถึงเรื่องการเมืองและเรื่องอื่นด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีครับ เมืองจะน่าอยู่สำหรับทุกคนได้ เราต้องยอมรับความหลากหลายของเพื่อนๆ เราให้ได้ครับ” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมปักธงหลากสีร่วมกับกลุ่มผู้จัดงาน เพื่อแสดงออกว่าทีมผู้ว่าฯ กทม. ชุดปัจจุบันสนับสนุนความหลากหลาย
ในช่วงหนึ่งเขาถูกถามว่าทำไมถึงทำงานทุกวันตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง (4 มิ.ย.) เขากล่าวว่า “ปัญหาของประชาชน ไม่มีหยุดเสาร์-อาทิตย์ แล้วผู้ว่าฯ กทม. ก็มีเวลาจำกัดแค่ 4 ปี ถ้าหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ 2 ใน 7 แล้วนะ ถ้าเราหยุดไป เวลามันก็หายไปตั้งเยอะ ก็ต้องทำให้เต็มที่ แต่ผมก็บอกข้าราชการไปว่า เสาร์-อาทิตย์ไม่ต้องมานะ เอาเฉพาะคนที่จำกัด แต่บางทีก็อาจมีผู้บริหารลงไปช่วยดูปัญหา”
ซึ่งเหตุผลว่าทำไมต้องลงพื้นที่ดูปัญหาหน้างานบ่อยๆ เขาเคยตอบไว้เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า “ผมว่ามันคือการส่งสัญญาณให้ ผอ.เขต และ ส.ก.เขตว่า การดูแลประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ และถ้าไม่ทำ เดี๋ยวผมลงไปดูเอง” และเขากล่าวเสริมว่า “การลงพื้นที่เป็นการดูแลประชาชน เอาโจทย์เป็นที่ตั้ง และในอนาคตจะได้ไม่ต้องให้ผู้ว่าฯ (กทม.) ลงไป”
หลังจากถ่ายรูปและแถลงถึงกิจกรรมดังกล่าว เขาได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงความคืบหน้าหลังเริ่มทำงานเป็นผู้ว่าฯ กทม. ครบ 7 วัน ดังนี้
1) ชัชชาติชี้แจงว่า เมื่อวานได้เดินทางไปที่สำนักระบายน้ำและได้พบว่ามีการพัฒนาระบบแจ้งการไหลของน้ำที่ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นข้อมูลในระดับภาพใหญ่ ยังไม่ละเอียดนัก แต่ยังปรับปรุงได้ โดยเฉพาะการพยากรณ์อากาศ เพื่อคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนให้ดีขึ้น
2) เขาระบุว่า เมื่อคืนได้พูดคุยกับ ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. และได้ข้อมูลว่าขณะนี้มีการขุดลอกคลองไปแล้ว 2 แห่งจากคลองทั้งหมด 1,980 แห่ง ซึ่งเขารับปากว่าจะดูแลการขุดลอกคลองให้มากขึ้น ส่วนโครงการขนาดใหญ่ยังอยู่ในการพิจารณาว่าจะทำต่อหรือไม่
โดยอาทิตย์หน้าเขามีนัดกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้ต้องขังที่ประพฤติตัวดีออกมาช่วยทำงานขุดลองคลูคลอง โดยเขาระบุว่าหลังจากคุยกับชาวบ้านพบว่า กรมราชทัณฑ์ทำงานมีประสิทธิภาพกว่าจ้างภาคเอกชน
นอกจากนี้ มีช่วงหนึ่งที่นักข่าวถามว่าจะมีการพูดคุยกับกองทัพเพื่อยืมกำลังพลมาขุดลอกคูคลองไหม ชัชชาติกล่าวว่าตนไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย และขอบใจสำหรับคำถามมาก ซึ่งรับปากจะนำไปคิดต่อดู
3) ชัชชาติชี้แจงต่อว่า ในวันที่ 6 มิ.ย. นี้ เขาจะเข้าพบรัฐมนตรีมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยระบุว่าคงไปแนะนำตัวและรับการบ้านจากรัฐมนตรีมา ส่วนเรื่องสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็จะนำไปพูดคุยเช่นกัน
4) นอกจากนี้ ในอาทิตย์จะมีนัดคุยกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น, จราจร, รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วราวุธ ศิลปอาชา ในนโยบายปลูกต้นไม้ 1,000,000 ต้นทั่ว กทม.
5) ประเด็นเศรษฐกิจ ทางชัชชาติชี้แจ้งว่าตอนนี้ได้ประสานกับหน่วยงานของ กทม. แล้วให้ไปเจรจากับตลาดต่างๆ ว่าสามารถลดค่าเช่าได้ไหม เขายังกล่าวต่อว่าตอนนี้กำลังพยายามหาทางชุบชีวิตตลาดนัดจตุจักรให้กลับมาอีกครั้งอยู่ โดยได้ลงพื้นที่ไปดูแล้ว และอีกหนึ่งวิธีอาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้คือการจัดงามเฟสติวัลประจำเดือน
6) ประเด็นสาธารณสุข โดยเฉพาะโรคฝีดาษลิง ชัชชาติชี้แจงว่าตอนนี้ได้กำชับกับกรมอนามัยให้จับตาดูโรคนี้แล้ว และได้มีการกำชับกับทีมที่วางแผนจัดงานออีเวนต์ในเดือน Pride Month ให้มีมาตรการป้องกันโรคนี้เช่นกัน โดยระบุว่าทุกงานที่มีการรวมคนเยอะๆ จะมีกรมอนามัยลงไปช่วยคัดกรองและดูแลผู้ร่วมงาน
7) ประเด็น 100 วันนำสายไฟลงดิน ชัชชาติชี้แจงว่า ไม่ได้หมายถึงทำสำเร็จภายใน 100 วัน แต่มันคือการเริ่มต้นนับหนึ่งเพื่อนำสายไฟลงดินอย่างจริงจัง โดยจะมีการศึกษาและดำเนินการในส่วนที่ทำได้ทันที
8) ประเด็นปัญหาร้องเรียน ชัชชาติชี้แจงว่าตอนนี้มีคนแจ้งปัญหาเข้ามาผ่านระบบ Traffy Fondu ราว 6,000 ปัญหาแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มี 6 เขตที่เริ่มเข้าใจการทำงานของระบบนี้แล้ว ยกตัวอย่าง เขตบางเขน ก็เริ่มรับเรื่องนี้ไปทำแล้ว ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่ากำลังจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่ กทม. มาอบรมเพื่อใช้เครื่องมือนี้ต่อไป
9) หลังจากสิ้นุสดกิจกรรม Pride Month ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางลงพื้นที่พระราม 3 หลังได้รับแจ้งเหตุพื้นถนนไม่เรียบหลังเอาสายไฟฟ้าลงดิน โดยได้มีผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง วิลาศ เฉลยสัตย์ และ ผอ.สำนักโยธากรุงเทพมหานคร ไทวุฒิ ขันแก้ว มาร่วมลงพื้นที่ด้วย โดยทางด้าน ผอ.สำนักโยธายืนยันว่าจะติดตามการทำงานผู้รับเหมาให้แก้ไขปัญหาพื้นผิวถนนไม่เรียบหลังขุดเจาะอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ชัชชาติยังระบุว่าจะมีการพูดคุยกับ กสทช. ในเร็วๆ นี้ เรื่องปัญหาสายสื่อสาร และจะให้ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงไปร่วมพูดคุยด้วย
10) ประเด็นไฟไม่ติด ประเด็นนี้ชัชชาติได้พูดคุยกับ ผอ.สำนักโยธากรุงเทพมหานคร และได้รับรายงานว่าขณะนี้การไฟฟ้านครหลวงกำลังติดตั้งระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีไฟของ กทม. ดวงใดก็ตามดับ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 10,000 กว่าหลอดที่ดับ จากทั้งหมด 500,000 หลอด โดยชัชชาติขอให้ ผอ.สำนักโยธากรุงเทพฯ แก้ไขภายใน 100 วัน
11) ประเด็นความปลอดภัย ชัชชาติชี้แจงว่าจะมีการทำแผนที่ความปลอดภัย กทม. เพื่อดูว่าจุดไหนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และจะมีการปรับปรุงข้อมูลจากกล้อง CCTV ซึ่งตอนนี้มีอยู่แล้ว แต่ยังขาดการวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ
อ้างอิง:
https://www.youtube.com/watch?v=YXko5UYc0a4
https://www.youtube.com/watch?v=e5tnmM2C1yM
#Brief #TheMATTER #ผู้ว่ากทม #ชัชชาติ