เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2562 ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและผู้ลี้ภัยทางการเมืองในญี่ปุ่น ถูกคนร้ายชาวญี่ปุ่นวัย 43 ปี บุกเข้ามาที่อพาร์ทเมนต์ในเมืองเกียวโตอย่างอุกอาจ และทำร้ายปวินกับคู่ชีวิตที่กำลังนอนอยู่ด้วยการฉีดเปรย์ใส่ ‘ไม่ยั้ง’
3 ปีถัดมา ในวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ศาลเมืองเกียวโตตัดสินว่า ชายชายญี่ปุ่นคนดังกล่าว ที่ชื่อว่า ทัตสึฮิโกะ ซาโตะ มีความผิดจริง ด้วยข้อหาบุกรุกเคหสถานและทำร้ายร่างกาย พร้อมสั่งให้จำคุก 20 เดือน แต่ในการดำเนินคดีครั้งนี้ เรารู้เพียงแค่ว่า เขาได้รับการร้องขอแกมข่มขู่มาจาก ‘พี่’ คนหนึ่ง ให้มาก่อเหตุนี้
ปวินเคยเล่ากับ The MATTER ถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างมาก หลังจากวันนั้น ก็ยังคงหวาดระแวง ต้องเช็คหน้าต่างซ้ำไปซ้ำไป และมักจะสะดุ้งตื่น ไม่รู้สึกปลอดภัย ซ้ำยังเคยฝันว่าถูกทำร้าย ทำให้ชกคู่ชีวิตที่นอนอยู่จนจมูกหัก
วันนี้ (10 มิ.ย.2565) เขาเขียนบทความแสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์ The Washington Post เพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า คือการพูดถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘transnational repression’ หรือการกดขี่ปราบปรามข้ามชาติ ที่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยหลายคนต้องเผชิญในต่างแดน
The MATTER ขอสรุปบทความดังกล่าวมาให้อ่านกัน ดังต่อไปนี้
ในบทความที่เพิ่งเผยแพร่ ปวินตั้งข้อสังเกตว่า การบุกทำร้ายตัวเขาน่าจะมี ‘การชักใย’ จากในประเทศไทย และชี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่สอดคล้องกับ “รูปแบบการกดขี่ปราบปรามข้ามชาติต่อผู้ที่วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ในช่วงปีที่ผ่านมา” (“pattern of transnational repression against critics of the monarchy in recent years”) ซึ่งเขาก็บอกว่า ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา มีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองชาวไทยหลายคนที่ถูกลักพาตัวและสังหารในกัมพูชาและลาว
เขายกตัวอย่างล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.2563 นั่นคือ กรณีของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูก “ลักพาตัวกลางวันแสกๆ ที่หน้าอพาร์ตเมนท์ของเขาในพนมเปญ จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย” อีกกรณีก่อนหน้าคือ ศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ ที่ถูกทำร้ายหน้าร้านอาหารในกรุงปารีส โดยชาวเช็ก 2 คน “ที่ถูกจ้างวานมาให้ทำร้ายเธอ”
อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ ปวินเขียนว่า “ระบอบอำนาจนิยมใช้วิธีนี้มานานแล้ว เพื่อกำจัดและคุกคามศัตรูในต่างแดน แม้จะหมายถึงการละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศเจ้าบ้านอย่างโจ่งแจ้งก็ตาม” ตัวอย่างหนึ่งที่อาจคุ้นเคยกันดีก็คือ การสังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวคนสำคัญที่เป็นปากเสียงวิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย
ปวินยังอ้างรายงานปี 2565 ของ Freedom House องค์กรเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของสหรัฐฯ ด้วยว่า ประเทศไทยเองก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์กดขี่ปราบปรามข้ามชาติที่ว่านี้ โดยได้ร่วมมือกับจีน กัมพูชา และเวียดนาม ในการส่งกลับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองให้กับประเทศเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเรียกร้องไปยังองค์กรและรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ลงมือแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง พร้อมกับเรียกร้องไปยังสหประชาชาติ (UN) ให้ลุกขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับรัฐบาลต่างๆ เพื่อสร้างบรรทัดฐานและพัฒนามาตรการรับรองความปลอดภัยของผู้ลี้ภัยทางการเมืองด้วย
ท้ายที่สุด ปวินย้อนกลับมากล่าวถึงการบุกทำร้ายในเมืองเกียวโตว่า เหตุการณ์นี้ยังไม่จบ ตำรวจญี่ปุ่นยังคงทำงานสอบสวนคดีนี้ต่อไป แต่ยิ่งไปกว่านั้น เขาบอกว่า “เรื่องราวเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวแค่กับตัวผมเท่านั้น แต่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ลี้ภัยทุกคนที่เรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาด้วย”
อ่านบทความฉบับเต็มของปวินใน The Washington Post ได้ที่: https://www.washingtonpost.com/opinions/2022/06/09/pavin-chachavalpongpun-japan-attacker-trial-thailand-monarchy
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
https://thematter.co/brief/177373/177373
https://thematter.co/social/pavin-statement-in-court-about-home-invasion/175624