นี่อาจเป็นข่าวดี ความหวัง และความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาผมร่วง เพราะล่าสุด องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ประกาศอนุญาตให้ใช้ ‘ยารักษาผมร่วง’ ที่ช่วยฟื้นฟูและรักษาอาการผมร่วงในผู้ป่วยหลายคน
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 65 ทาง FDA เพิ่งอนุญาตให้ใช้ยา ‘Baricitinib’ เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) ได้แล้ว โดยยานี้ช่วยผมงอกขึ้นใหม่ด้วยการป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายรูขุมขน และเป็นยาที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยบริษัท อีไล ลิลลี (Eli Lilly) ซึ่งเป็นบริษัทยาจากสหรัฐฯ
แรกเริ่มเดิมที Baricitinib เป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ก่อนจะถูกศึกษาวิจัยจนพบว่ายาชนิดนี้สามารถรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้ และงานวิจัยดังกล่าวก็เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ผ่านวารสารการแพทย์ New England
ในงานวิจัย ทีมนักวิจัยเชิญอาสาสมัคร 1,200 รายที่ป่วยด้วยอาการผมร่วงเป็นหย่อมอย่างรุนแรง และแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้ยาหลอก กลุ่มที่สองได้รับยารักษาโรคไขข้ออักเสบ 2 มิลลิกรัม และกลุ่มสุดท้ายจะได้รับ 4 มิลลิกรัม เป็นเวลาทั้งหมด 36 อาทิตย์
ผลก็คือ 40% ของกลุ่มที่ได้รับยา 4 มิลลิกรัม กลับมามีผมดกดังเดิมหลังผ่านไป 36 สัปดาห์ ในขณะที่ 20% ของกลุ่มที่ได้รับยา 2 มิลลิกรัมก็กลับมามีผมอีกครั้งเช่นกัน
แต่การกินยานี้มีผลข้างเคียงอยู่เหมือนกันนะ จากงานวิจัย มีรายงานว่าอาสาสมัครบางรายพบผลข้างเคียง ได้แก่ สิวขึ้น ระบบปัสสาวะติดเชื้อ หรือระดับคอเรสเตอรอลสูงขึ้น เป็นต้น แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้รักษาให้หายได้ไม่ยาก หรือบางอาการก็สามารถหายได้โดยไม่ต้องรับการรักษา
อย่างไรก็ดี ดร.หลุยส์ การ์ซา (Luis Garza) แพทย์ผิวหนังจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เผยว่า ยานี้อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยทุกคน โดยผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่มีอาการติดเชื้อ มีประวัติหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
และโฆษกจากบริษัท อีไล ลิลลี เผยกับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ว่า ราคาขายส่งของยา Baricitinib จะอยู่ที่ประมาณ 2,497 ดอลลาร์ (ราว 87,607 บาทไทย) โดยจะได้รับการจ่ายยา 2 มิลลิกรัม สำหรับ 30 วัน
ผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม ไม่ได้เสียผมบนศีรษะเท่านั้น แต่สามารถสูญเสียขนได้ทุกส่วนบนร่างกาย เช่น คิ้ว ขนตา เป็นต้น แม้อาการจะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดต่อร่างกายโดยตรง แต่บ่อยครั้งผู้ป่วยโรคนี้ต้องเผชิญกับผลกระทบทางสุขภาพจิตอันที่มีมาจากอาการสูญเสียผมบนร่างกาย โดย เจดา พินเก็ตต์ สมิธ (Jada Pinkett Smith) นักแสดงชื่อดังก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคดังกล่าว
อ้างอิงจาก
https://thematter.co/brief/172349/172349