หลังปรากฎข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอต่อที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2565 ขอขึ้นค่าตอบแทนให้กับประธานและกรรมการ กสทช. ซึ่งนอกจากขึ้นค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือน 7.5% ยังรวมถึง ‘ค่าเสียโอกาส’ กรณีที่หลังจากพ้นจากตำแหน่ง จะไปทำงานในกิจการที่เกี่ยวข้องกับงานของ กสทช. ไม่ได้เป็นเวลา 2 ปี ตามที่หลายสื่อรวมถึง The MATTER รายงานไปนั้น
- อ่านข่าวได้ที่: thematter.co
คืนวันที่ 22 ก.ค.2565 ทางสำนักงาน กสทช. โดยไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ได้ออกมาชี้แจงว่า การขอขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าว ที่ประชุม ครม. อนุมัติให้เพียงการขึ้นค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือน 7.5% เท่านั้น ไม่รวมถึงค่าเสียโอกาส “ซึ่งเป็นแนวคิดที่เสนอโดยสำนักงาน กสทช. …ทาง ครม. ไม่ได้อนุมัติ”
เหตุผลที่ต้องขึ้นค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนให้กับประธานและกรรมการของ กสทช. เนื่องจากไม่มีการขึ้นมาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว โดยประธาน กสทช. จะได้ 361,167 บาท/เดือน (เดิม 335,850 บาท/) ส่วนกรรมการ กสทช. จะได้ 289,167 บาท/เดือน (เดิม 269,000 บาท/เดือน)
ส่วนข้อเสนอให้เพิ่มเงิน ‘ค่าเสียโอกาส’ แก่ประธาน กสทช. อีก 89,667 บาท/เดือน และกรรมการ กสทช. อีก 71,667 บาท/เดือน ถูกหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องคัดค้าน จนที่ประชุม ครม. ไม่เห็นชอบด้วย
ไตรรัตน์ยังย้ำว่า กรรมการหรือบอร์ด กสทช. ชุดปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอปรับปรุงค่าตอบแทนที่สำนักงาน กสทช. เสนอต่อ ครม. แต่อย่างใด เพราะบอร์ดชุดปัจจุบันเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กสทช. เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2565 และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565
- ที่มา: https://www.facebook.com/photo/?fbid=419780553508698&set=a.308623361291085
#Brief #TheMATTER