ภายหลังที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) การโหวตรับร่างมติประณามการผนวกดินแดนที่ ‘ไม่ชอบด้วยกฎหมาย’ ของรัสเซีย เมื่อวานนี้ (12 ตุลาคม) ด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น 143-5 ผู้แทนจากประเทศต่างๆ ก็พากันส่งเสียงและปรบมือเกรียวกราวกลางโถงประชุมด้วยความดีใจ
แต่หนึ่งในปฏิกิริยาที่น่าสนใจที่สุด ก็คงจะเป็นท่าทีของ เซอร์กีย์ คิสลิตสยา (Sergiy Kyslytsya) เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรยูเครนประจำ UN
เพราะภายหลังจากที่ลงมติ เขาก็ออกมาโพสต์ภาพผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @SergiyKyslytsya เป็นภาพตัวเขาเองกำลังส่องกล้องส่องทางไกลไปที่จอด้านหน้าโถงประชุม พร้อมกับคำอธิบายใต้ภาพว่า “โอ้ พระเจ้า! มองไม่เห็นเลย! มีกี่ประเทศนะที่คุณบอกว่าโหวตให้รัสเซีย? 4 ประเทศเองเหรอ? เหลือจะเชื่อ!”
ทั้งนี้ การพูดถึงจำนวนตัวเลขก็สำคัญ เพราะถึงแม้การรับร่างมติของสมัชชาใหญ่ฯ จะไม่ได้มีผลผูกพันใดๆ ในทางกฎหมาย แต่การลงมติครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า มีจำนวนประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับรัสเซียมากเป็นประวัติการณ์ คือมีถึง 143 ประเทศ เทียบกับการลงมติประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่มี 141 ประเทศ
ในขณะที่การลงมติครั้งล่าสุด มี 5 ประเทศที่โหวตไม่เห็นชอบ คือ เบลารุส เกาหลีเหนือ นิการากัว ซีเรีย และรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ คิสลิตสยา ยังได้กล่าวกับที่ประชุมสมัชชาใหญ่ฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมด้วยว่า “รัสเซียได้แสดงให้เห็นอีกครั้งแล้วว่า รัสเซียคือรัฐผู้ก่อการร้าย (terrorist state) ที่จะต้องถูกหยุดยั้งด้วยวิธีใดก็ได้ที่เข้มงวดที่สุด” ก่อนจะย้ำว่า แต่ละประเทศจำเป็นต้องลงมติในครั้งนี้ เพื่อ “ป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายต่อไป”
ด้าน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ทวีตข้อความขอบคุณทั้ง 143 ประเทศที่สนับสนุน ‘มติประวัติศาสตร์’ ดังกล่าว พร้อมระบุว่า “ทั้งโลกได้แสดงออกแล้วว่า ความพยายามผนวกดินแดนของรัสเซียนั้นไร้ค่า และจะไม่เป็นที่ยอมรับโดยชาติเสรีใดๆ ยูเครนจะทวงคืนทุกดินแดนกลับมา”
ในขณะที่ไทยเป็น 1 ใน 35 ประเทศที่งดออกเสียง โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นการลงมติในบรรยากาศที่ ‘พลิกผันได้ง่าย’ และ ‘เต็มไปด้วยอารมณ์’ ซึ่งจะยิ่งลดทอนโอกาสของการทูตช่วงวิกฤต ที่จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาผ่านการเจรจาที่สันติและใช้ได้จริง ให้กับความขัดแย้งที่อาจผลักโลกไปสู่สงครามนิวเคลียร์และการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลก
อ้างอิงจาก