The Cheese Sisters คือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก iAM FILMS ที่ได้นักแสดงจากวง BNK48 และ CGM48 มาเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ของเด็กสาวทั้งหมด 4 คู่ และภาษารักที่จะทำให้อบอุ่นไปทั้งหัวใจ และในโอกาสที่ The Cheese Sisters กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ The MATTER ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ 7 สาวนักแสดงถึงเรื่องราวความรัก ซึ่งได้คำตอบออกมาน่ารักทีเดียว
ทำไมถึงต้องเป็นชีส มีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า?
สำหรับ The Cheese Sisters จะมีชีสเป็นตัวกลางในการเล่าเรื่อง ถ้าแทนชีสเข้าไปในสมการความรักของเด็กสาวทั้ง 8 คนก็เหมือนกับการพัฒนาความสัมพันธ์ กว่าจะมาเป็นชีส 1 ก้อนนั้นต้องใช้เวลาในการบ่ม และผ่านกระบวนการอีกมากมาย The Cheese Sisters ที่เล่าถึงการเดินทางของชีสทั้งในตัวละครในฟาร์มโคนม โฮมสเตย์ เส้นทางขนส่งชีส และคาเฟ่ ตีคู่มากับการเดินทางของความสัมพันธ์เด็กสาวทั้ง 4 คู่
ในหนังเล่าเรื่องผ่านภาษารัก แล้วในชีวิตจริง ภาษารักของแต่ละคนคืออะไร?
อย่างที่รู้กันว่าภาษารักแบบสากลนั้นมีทั้งหมด 5 แบบ คือ Words of Affirmation หรือการแสดงออกผ่านคำพูด, Quality Time การได้ใช้เวลาร่วมกัน, Acts of Service การทำอะไรสักอย่างให้ด้วยใจ, Gifts การมอบของขวัญ, และ Touch หรือการแตะเนื้อต้องตัว แล้วสำหรับทุกคน ภาษารักของแต่ละคนเป็นแบบไหน
ฟ้อนด์ตอบก่อนใครว่า “เป็น Acts of Service เวลารักใครสักคนเราก็อยากมอบสิ่งดีๆ ให้ ไม่อยากพูดคำว่ารักเพราะเขิน จะแสดงออกเป็นการกระทำมากกว่า”
น้ำหนึ่งให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่ดีพร้อมอธิบายให้ลึกซึ้งขึ้นว่า “ช่วงเวลาดี ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ในทุกความสัมพันธ์ทั้งพ่อแม่ เพื่อน การได้อยู่ด้วยกันมันเติมเต็มใจ” ส่วนคนิ้งก็คล้ายกันด้วยคำตอบ “ความผูกพัน อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ก็ผูกพันจนเกิดเป็นความรักขึ้นมา”
ส่วนเนยและมามิ้งค์ให้ความสำคัญกับการสัมผัส “เราชอบเอาตัวเองเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะ อยากเล่นกับใคร อยากอยู่กับใครก็จะไปแบบว่า” เนยเล่าพร้อมเกาะไหล่น้ำหนึ่งให้ดูเป็นตัวอย่าง มามิ้งค์ก็บอกว่า “การแตะเนื้อต้องตัว กอด การกอดทำให้รู้สึกว่าเราได้รับพลังความรัก ได้ชาร์จพลัง”
สำหรับเจนนิษฐ์และปัญก็มีภาษารักที่คล้ายกัน “ทำหมดทั้ง 5 อย่างเลย มันมาเองแบบพร้อมกันเลย ถ้าขาดอันใดอันหนึ่งก็จะรู้สึกว่ามันไม่สมบูรณ์นะ” ส่วนปัญก็ตอบตามมาว่า “คล้ายเจนนิษฐ์นะ ทำทั้ง 5 อย่างเลย แต่มากที่สุดน่าจะเป็น Acts of Service”
ประสบการณ์การแสดงหนังโรแมนติกครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
ฟ้อนด์เล่าว่า “ตอนเล่นครั้งแรกก็ขำกันเอง ไม่กล้าเล่น การเล่นหนังโรแมนติกก็เขินแหละ แต่ถ้าเล่นไปหลายเทคก็จะเริ่มไม่ขำแล้ว ที่จริงก็เหมือนกับการฝึกจิตใจอยู่เหมือนกัน เพราะสุดท้ายมันคือหน้าที่ของเราที่ต้องทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ตั้งใจกันทั้งคู่ ตกลงกันด้วยสายตา ทำอย่างจริงจัง เดี๋ยวก็จะไม่ขำ แล้วก็จะรู้สึกดีเอง เก่งจัง”
ส่วนคนิ้งเล่าเรื่องตลกที่เกิดขึ้น “ซีนที่ต้องมองหน้ากัน แค่มองหน้ากันมันก็ขำแล้ว ยังต้องไปจ้องกันนานๆ ใกล้ๆ ใกล้มากแบบเห็นเงาในตากันเลย เหมือนมีมที่เขาชอบทำกันว่าเวลาเห็นหน้าใกล้ๆ มันจะเป็นหน้าแปลกๆ”
หลังจากคนิ้งอธิบายมีมเห็นหน้าใกล้กันเสร็จ ก็อธิบายถึงประสบการณ์รักแรกที่ได้จากการแสดงหนังเรื่องนี้ “ปกติไม่ค่อยได้พบเจอกับความรักเลย ทำงานก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับความรัก พอได้แสดงหนังโรแมนติกเราก็จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่พอได้อยู่กับบทไปเรื่อยๆ แสดงไปเรื่อยๆ มันก็เหมือนรักครั้งแรกนะ ได้ประสบการณ์”
นอกจากความน่ารักของสมาชิกวง BNK48 และ CGM48 และความสัมพันธ์แสนอบอุ่น ยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์จากค่ายเพลง Independent Records อย่างเพลง ข้างๆ โดย ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี เพลง ชีส โดย ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร เพลง Bye Bye โดย วี-วีรยา จาง และ ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา และเพลง ลา ลา รัก โดย แชมพู -กชพร ลีละทีป
The Cheese Sisters จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้