BNK48 กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลที่ 12 ‘Believers’ เพลงสำคัญที่เหล่าสมาชิกได้รับการคัดเลือกมาจากผลโหวตของแฟนคลับจากการ General Election ที่โมบายล์มาเป็นเซ็นเตอร์ประจำซิงเกิลนี้ พร้อมกับเพื่อนๆ สมาชิกอีกทั้ง 15 คน
เพลง ‘Believers’ ไม่ได้สำคัญเพียงแค่เป็นซิงเกิลจากผลโหวตของแฟนๆ หรือมีเอ็มวีที่ได้ไปถ่ายทำในประเทศญี่ปุ่น หากแต่เหล่าสมาชิกของ BNK48 และ CGM48 ก็เชื่อคล้ายกันว่า นี่คือบทเพลงที่เป็นเหมือนกับภาพสะท้อนชีวิตการเป็นไอดอล การเดินตามหาความฝัน อุปสรรค และการยึดมั่นใน ‘ความเชื่อ’ ของตัวเองบนเส้นทางที่ยากลำบากนี้
แต่ละคนจะมองเพลงนี้และเส้นทางของไอดอลที่ผ่านมาอย่างไร ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์นี้
The MATTER : เล่าให้ฟังหน่อยว่าตอนไปถ่ายเอ็มวีที่ญี่ปุ่น มีอะไรสนุกๆ บ้าง หรือชอบอะไรเกี่ยวกับเอ็มวีนี้กันบ้าง
โมบายล์ : เราชอบเอ็มวีนี้เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน ตอนนั้นพวกเราถ่ายกันแบบกองโจร พอเห็นเอ็มวีออกมาก็รู้สึกว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจดี มีความหมายเยอะมากมายเลย
มินมิน : ชอบตอนใช้เวลาว่าง พอว่างก็จะใช้ชีวิตให้มีความสุขเลย แค่เข้าร้านสะดวกซื้อก็สนุกแล้ว
ออม : เราไปถ่ายเอ็มวีครั้งนี้ เราประทับใจในทุกที่ที่ไปเลย มีสถานที่ที่เราไม่เคยไปด้วย เช่น ในเมืองคิตะคิวชู ที่เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีสถานที่ให้เที่ยวเยอะมาก เรากลับมาบอกกับครอบครัวเลยว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปที่นั่นใหม่
The MATTER : แล้วตอนถ่ายเอ็มวีมีความยากง่ายยังไงบ้างไหม
มิวสิค : มีที่ต้องถ่ายในฉากดาดฟ้าซึ่งลมมันแรงมาก แล้วมันเป็นการถ่ายแบบลองเทค ทำให้ทรงผมกับลมมันไม่ได้ไปด้วยกัน แต่เราก็สู้กันค่ะ (หัวเราะ)
ฟอนด์ : ที่เจอคืออุปสรรคเรื่องของการถ่ายซีนเต้น เราถ่ายกันหลายชั่วโมง รองเท้าก็ค่อนข้างจะเจ็บมาก ก่อนถ่ายซีนเต้นเรามีเวลาซ้อมและรับท่าเพียงแค่วันเดียว พวกเรายังไม่เคยซ้อมเรื่องบล็อกกิ้งกันมาก่อนเลย
มามิ้งค์ : หนูยังเต้นไม่ได้เท่าคนอื่น เพราะเป็นคนหัวช้าเรื่องการจำท่า เหมือนตอนเต้นในกองถ่ายก็มีครูสอนเต้นมาช่วยเต้นข้างหน้าให้ดู แต่จริงๆ พวกเราก็ต้องทำให้ได้แล้วในตอนนั้น มันเลยมีความยากอยู่
มินมิน : ความยากคือ พอเราไปถ่ายที่ต่างประเทศ เราจะไม่ใช้หลายๆ เทคไม่ได้ พวกเราต้องถ่ายกันอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องใช้แสงตอนกลางวันเท่านั้น และต้องมั่นใจว่าความสวยของเราต้องออกมาดี (หัวเราะ)
The MATTER : เราไปดูเอ็มวีมา เห็นซีนที่โมบายล์ต้องถ่ายหน้ากระจกในสวนแห่งหนึ่งด้วย
โมบายล์ : ความยากของฉากนี้คือเขาไม่ปิดสถานที่ ทุกคนเที่ยวได้เต็มที่ ถ้าเราถ่าย เราก็ต้องรอเกียรตินักท่องเที่ยวทุกคนได้เที่ยวตรงนั้นก่อน เราก็ต้องวิ่งไปวิ่งมา
The MATTER : แล้วพอเอ็มวีออกมาเป็นยังไงบ้าง ชอบกันไหม
โมบายล์ : ชอบที่มันเป็นเอ็มวีที่สนุกและถ่ายสวย และแฝงความหมายเข้าไปด้วย ตอนที่เราได้ตารางถ่ายมาเราก็ยังงงๆ อยู่เลยว่าเอ็มวีมันจะเป็นยังไง แต่พอออกมาก็เข้าใจและชอบมาก
มิวสิค : จริงๆ เราเป็นคนดูเอ็มวีเพียงครั้งเดียวมาตลอดเลย แต่พอได้ดูเอ็มวีนี้ก็รู้สึกประทับใจ ด้วยความที่เรามีเวลาน้อย ทางทีมงานเลยเก็บฟุตเทจมาเยอะมากๆ เยอะในระดับที่เอาไปใช้ทำเอ็มวีได้อีก 2-3 เพลงเลย (หัวเราะ) เลยกำลังลุ้นว่าทีมงานจะปล่อยฟุตเทจที่มีอยู่ออกมาในโอกาสพิเศษอื่นๆ ไหม
ออม : มีฉากที่ถ่ายแล้วไม่ได้ใช้ออกมาด้วย
ฟอนด์ : หนูชอบเอ็มวีนี้นะ เพราะมันได้ความรู้สึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราได้ถ่ายเอ็มวีที่ต่างประเทศ มันเป็นครั้งแรกเลย อนาคตจะได้เปิดให้ลูกหลานดูไดว่าเราเคยไปถ่ายเอ็มวีที่ญี่ปุ่น (หัวเราะ)
มามิ้งค์ : ชอบที่เอ็มวีมมันถ่ายเรื่องราวของโมบายล์ออกมาได้ดี โดยเฉพาะฉากที่โมบายล์ส่องกระจกและพูดกับตัวเอง มันดูแล้วเราก็เกี่ยวข้องกับสตอรี่ที่พูดถึงชีวิตของเรากว่าจะมาถึงจุดนี้ อีกอย่างหนึ่งคือเราชอบแสงญี่ปุ่น ถ่ายออกมาแล้วดูฟิลเตอร์ญี่ปุ่น
The MATTER : ด้วยความพิเศษของเพลง ตอนรู้ว่าเพลงนี้มันจะเป็นเพลงออริจินัลเลย แถมยังได้สมาชิก AKB48 อย่าง โอคาดะ นานะ มาแต่งให้ด้วย ตอนนี้รู้เรื่องนี้ รู้สึกกันยังไงบ้าง
โมบายล์ : ตกใจที่ได้รู้ว่ารุ่นพี่จะมาเป็นคนแต่งเพลงให้ เราเลยรอลุ้นตั้งแต่ตอนนั้นว่าเพลงจะออกมาเป็นยังไง
มิวสิค : ยังมีรุ่นพี่ยุยรี่ (ยุยริ มุรายามะ สมาชิก AKB48) ที่มาออกแบบท่าเต้นให้ด้วยก็ยิ่งประทับใจ
The MATTER : แล้วพอเนื้อเพลงถูกแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ชอบเนื้อหาของเพลงกันไหม
ออม : จำได้เลยว่าตอนฟังครั้งแรกพร้อมกันกับทุกคนขนลุกมาก เนื้อหาของเพลงมันซึ้งมากๆ เพราะมันบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเราทุกคน
โมบายล์ : ฟังแล้วรู้เลยว่าเนื้อหาของเพลงมันกลั่นกรองมาจากชีวิตการเป็นไอดอลของพวกเรามากๆ ตอนที่มีทีมงานส่งคำถามเพื่อมาขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา หนูไม่แน่ใจว่าเคยตอบคำถามเขาไปเรื่องนี้รึเปล่าว่า หนูเป็นคนชอบร้องเพลง แต่ในเพลงมีท่อนที่บอกว่า “ไม่มีคำว่ากลัว สู่ต่อไป ปล่อยให้ใจได้ร้องเพลงไปตามฝัน” ออกมาในเพลงด้วย เราก็ยิ่งประทับใจเหมือนกับเขาได้เอาคำตอบเล็กๆ น้อยๆ ของเราไปใส่ในเนื้อเพลง เป็นเพลงที่ร้องที่เราเราก็รู้สึกถึงมันจริงๆ
มินมิน : เราคิดถึงตัวเองก่อนที่เราจะเข้ามาอยู่ใน BNK48 เพลงนี้มันทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงตัวเราเองก่อนหน้านี้ มันมีมากมายหลายความหมายมากๆ ทุกสิ่งที่เจอ ความสุข ความทุกข์อะไรก็แล้วแต่ มันหลายอย่างมากๆ เพลงนี้มันตอบได้ทุกช่วงชีวิตที่เราได้อยู่ใน BNK48 เลย
มามิ้งค์ : ชอบท่อนที่ร้องว่า “ขอบคุณทุกวันที่เธอเชื่อใจกันไม่จาง” มันเป็นท่อนที่เรารู้สึกอยากขอบคุณแฟนคลับที่นยังเชื่อมั่นในตัวเรา บางที่เราอาจจะไม่มั่นใจในตัวเองด้วยซ้ำว่าเราเหมาะกับเส้นทางไอดอลจริงๆ ไหม แต่แฟนคลับก็คอยสนับสนุนเรามาเสมอ
ฟอนด์ : มันเป็นเพลงที่เหมาะกับซิงเกิลนี้ เพราะซิงเกิลนี้มาจากแฟนคลับ ความหมายแบบนี้แหละที่เหมาะกับงาน General Election ด้วย เลยรู้สึกว่ามันลงตัวไปหมดเลย เพลงนี้แหละที่มันจะต้องความหมายแบบนี้แหละ
The MATTER : แต่ละคนคิดว่าเพลงนี้มันช่วยสะท้อนตัวเองในอดีตยังไงบ้าง
มินมิน : มันทำให้เรารู้สึกว่าเพราะการมีแฟนคลับนี่แหละ ที่ช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจและอยู่ถึงวันนี้ได้ ทุกครั้งที่เราทำอะไรก็ตามที่เราก็อยากให้แฟนคลับมีความสุข และภูมิใจที่ได้เห็นเราในทุกวันนี้
โมบายล์ : มันเหมือนบอกความรู้สึกของเราผ่านบทเพลงนี้ เพลงนี้มันสื่อถึงพวกเราว่า ถึงแม้เราจะมีความฝัน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ต่องผ่านอุปสรรค และคำสบประมาทมากมาย แต่สิ่งที่จะทำให้ก้าวต่อไปได้ก็คือเรายังเชื่อมั่นในความฝันของตัวเอง และมีคนที่รักเรา พวกเขายังเชื่อมั่นในความฝันที่เราฝันเหมือนกัน ก็เลยรู้สึกชอบ และดีใจที่ได้ร้องเพลงนี้
The MATTER : มีท่อนหนึ่งในเพลงนี้ที่ร้องว่า “เจ็บเป็นครู ให้เราเรียนรู้ว่าไม่เป็นไร ไม่ท้อ มีความหมาย ยิ่งเจ็บแค่ไหน ยิ่งเชื่อมั่นในตัวเอง” ท่อนนี้เป็นจริงแค่ไหนกับชีวิตในฐานะ BNK48 และ CGM48
มิวสิค : ในชีวิตคนเรา ไม่ใช่เพียงแค่กับไอดอล ทุกคนต้องเผชิญกับความเจ็บปวด หรือรู้สึกทรมาน แต่ความเชื่อมั่นและความกล้ามันจะเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราเดินหน้าขึ้นไปต่อได้ ดังนั้น ความเจ็บปวดก็จะเป็นบทเรียนให้เราได้รู้จักตัวเรามากขึ้น เนื้อเพลงท่อนนี้มันจึงไม่ได้มีความหมายแค่กับไอดอล แต่มีความหมายสำหรับทุกคนเลย อยากให้ทุกคนฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกถึงชื่อเพลง ‘Believers’ ที่อยากให้เขาเชื่อว่า ในทุกสิ่งที่เขากำลังเจออยู่ตอนนี้ ถึงแม้มันจะหนักหนา แค่ไหน แต่สักวันหนึ่งมันจะผ่านไปได้ด้วยดี มันจะเป็นบทเรียนที่สอนให้เขาเติบโตขึ้น และจะรักตัวเองมากขึ้นในทุกๆ วัน
โมบายล์ : มันคือพวกเราจริงๆ นะ พวกเราไม่ได้เก่งแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ในทุกด้าน มันจะต้องมีจุดที่ผิดพลาดก่อนถึงจะรู้ว่าเราไม่ถนัดในเรื่องไหน และต้องพยายามเพื่อแก้ไขให้มากขึ้น มันทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้นไปเรื่อยๆ
The MATTET : แน่นอนว่าในช่วงเวลาของการเป็นไอดอล มันต้องเผชิญกับช่วงเวลาเจ็บๆ หม่นๆ เศร้าๆ กันอยู่เหมือนกัน อยากรู้ว่าแล้วพาตัวเองฟื้นขึ้นมาจากความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไร
ออม : เวลารู้สึกแบบนั้น ทุกวันมันจะมีความรู้สึกทั้งสุขและทุกข์ในการทำงาน เราจะพยายามมองหาความสุขเล็กๆ ในแต่ละวันให้กับตัวเอง หรือไม่ก็ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้กับตัวเอง เช่น วันนี้ถ้าเราทำงานหนัก พอหลังเลิกงานก็จะได้กินของอร่อยๆ หลังเลิกงานนะ การคิดแบบนี้จะช่วยให้เราแรงสู้กับทั้งวันนั้น
มามิ้งค์ : จะคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วดีทั้งหมด ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่มันจะเป็นประสบการณ์ เป็นอีกหนึ่งช่วงชีวิตที่เราจะได้ดื่มด่ำ ไม่เป็นไร ถึงจะเป็นความทุกข์เราก็จะอยู่กับมันได้
The MATTET : ด้วยความที่ชื่อเพลงนี้คือ ‘Believers’ เลยอยากรู้ว่า แล้วความเชื่อแบบไหนที่จะพาเราไปสู่จุดหมายของความฝันที่ตั้งเอาไว้ได้
มินมิน : ทุกครั้งที่เรากังวล เรามักจะคิดว่าเราทำไม่ได้ แล้วเราก็จะทำไม่ได้ไปเลยจริงๆ แต่ถ้าเรามีความเชื่อเราต้องทำให้ได้สิ สุดท้ายมันก็จะทำได้ ความเชื่อที่มั่นใจว่าเราทำได้มันจะช่วยให้เราเอาชนะอุปสรรคได้
ออม : มันเหมือนเป็นจิตวิทยาด้วยนะ เวลาเราบอกว่า เดี๋ยวเราจะทำสิ่งนี้ได้นะ ร่างกายและสมองของเรามันจะพาให้เราไปทำสิ่งนั้นได้จริงๆ
ฟอนด์ : เราต้องมีความเชื่อแบบที่ไม่เปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่น ความเชื่อที่เราจะไม่กดดันตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเราแต่ไม่ต้องไปเปรียบกับคนอื่นว่าคนนู้นดีกว่าเรา ทำแค่ส่วนของเราให้ดี และเชื่อว่าเราทำได้แค่นั้นเอง หนูเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนเหมือนกัน แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าแล้วเราได้อะไรจากการเปรียบเทียบตัวเราเองกับคนอื่น ได้บทเรียนมาว่า การเปรียบเทียบมันไม่ได้ดีต่อตัวเราเลย เพราะฉะนั้นเราก็แค่แข่งกับตัวเองดีกว่าไหม
The MATTER : แต่ละคนอยากขอบคุณตัวเองในเรื่องไหนบ้าง กว่าที่จะเดินมาถึงจุดนี้ได้
โมบายล์ : อยากขอบคุณตัวเองที่พยายามมาเสมอ มันเคยมีสิ่งที่เราไม่ถนัด สิ่งที่เราไม่เคยทำได้ แต่เราก็พยายามยังไงก็ได้จะไม่โดนว่า เพื่อให้ผ่านไปได้ เราเลยไม่รู้ว่ามันคือความพยายามโดยไม่รู้ตัว มันทำสำเร็จ
ออม : ขอบคุณตัวเองที่สู้มาถึงตอนนี้ กับหลายๆ เรื่องที่เข้ามาในชีวิต หนูเป็นคนที่ชอบพูดกับตัวเองในกระจก บางทีเราสวยจังเลย ลุคนี้ดีนะ ให้ความมั่นใจกับตัวเอง บางทีเราขอบคุณตัวเองซึ่งถูกต้องแล้วเพราะหลายๆ คนก็ช่วยให้เรามาถึงจุดนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนลืมขอบคุณตัวเองด้วยที่ยังสู้และมีความเชื่อ ที่ทำให้เรามีทุกวันนี้
มามิ้งค์ : อยากขอบคุณตัวเองที่กล้าหาญ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อนกล้าแสดงออกมากเท่าไหร่ แต่พอได้ย้อนกลับไปจากจุดนี้ เราอยากขอบคุณตัวเองมากๆ ที่กล้าหาญมากและมาได้ถึงตรงนี้ อยากขอบคุณที่เคารพความเป็นตัวของตัวเองเสมอ
The MATTET : อยากฝากอะไรกับคนฟังบ้าง
โมบายล์ : กว่าจะไปถึงความสำเร็จได้ก็เพราะแฟนคลับและตัวเรา รวมถึงคนที่เรารัก ถ้าใครอยากจะขอบคุณ ก็ลองเอาเพลงนี้ไปให้เขาฟัง เพื่อที่จะบอกเขาว่า เขาคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จนะ ใครที่กำลังท้อ ก็ลองฟังเพลงนี้ดูว่า กว่าที่เราจะประสบความสำเร็จได้มันก็ค่อนข้างยาก
ถ้าเราเต็มที่ พยายาม อดทน สักวันหนึ่งจะเป็นวันของเรา