กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าเศร้าใจ หลังนักเรียนในอังกฤษคนหนึ่งเสียชีวิต ก่อนจะพบว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสกรุ๊ปเอ (Group A Streptococcus) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘โรคไข้อีดำอีแดง’ ขณะที่บ้านเราก็มีรายงานผู้เสียชีวิตในกระบี่ กรุงเทพมหานคร และกาญจนบุรี
การระบาดของโรคดังกล่าว เกิดขึ้นภายในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ทำให้หน่วยงานหลักประกันสุขภาพต้องเข้าไปตรวจสอบ และเร่งควบคุมการระบาดอย่างเร่งด่วน เพราะนอกจากเด็กที่เสียชีวิตแล้ว เพื่อนนักเรียนอีกคนก็ถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาล เนื่องจากมีการของโรคที่เข้าขาย ขณะที่นักเรียนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้รับการให้ยาปฏิชีวนะแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลว่า กรณีของการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้หลังจากการผ่อนคลายข้อจำกัดของโรค COVID-19
สำหรับ ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) นั้นคือโรคซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีผื่นสีแดงขึ้นตามผิวหนังเกือบทั่วร่างกาย แก้มแดง ลิ้นบวม ที่่หลายคนเรียกแทนว่า ‘ลิ้นสตรอเบอรี่’ รวมถึงมีไข้สูง และมีอาการเจ็บคอเกิดขึ้นร่วมด้วย สามารถแพร่กระจายด้วยการไอและจาม ในต่างประเทศพบบ่อยในฤดูหนาว ในขณะที่บ้านเราก็พบการระบาดบ่อยครั้งในช่วงหน้าฝน
ทั้งนี้ นับว่าเป็นโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งสำหรับผู้ป่วยเด็ก ไม่สามารถหายเองได้ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้อาการแย่ลง จนส่งผลร้ายแก่หัวใจ ไต และอวัยวะอื่นๆ
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยในบ้านเรา ตามข้อมูลของกองควบคุมโรค เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนนั้น กลุ่มอายุ 5-14 ปี พบการป่วยสูงสุดจำนวน 227 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิตในกระบี่ กรุงเทพฯ และกาญจนบุรี
จึงมีการแจ้งเตือนว่าให้สังเกตอาการตัวเอง โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีลูกเล็กต้องคอยระวัง หากพบสงสัยให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
อ้างอิงจาก