‘พายุ บุญโสภณ’ หรือ พายุ ดาวดิน ถูกยิงกระสุนยางเข้าที่ดวงตาข้างขวา ระหว่างที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าสลายการชุมนุมในม็อบราษฎรหยุด APEC 2022 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้แพทย์เคยระบุว่า ลูกตาของเขาแตกทั้งลูก มีโอกาสกลับมาใช้งานได้ต่ำกว่า 1%
และหัวค่ำของเมื่อวานนี้ (25 พฤศจิกายน) กลุ่มดาวดิน สามัญชน อัพเดทอาการของนักกิจกรรมคนนี้ผ่านเฟซบุ๊กว่า “หมอแจ้ง ตาข้างขวาไม่สามารถมองเห็นได้อีก”
ทั้งนี้ ยังชี้แจงด้วยว่า พายุยังต้องรับยาฆ่าเชื้อ และยังต้องหยอดยาที่ดวงตาวันละหลายครั้งอยู่ แต่ผลตรวจเลือดและปัสสาวะไม่พบเชื้อใดๆ ส่วนอาการไข้ก็เริ่มดีขึ้น
แต่ในส่วนของการมองเห็น กลุ่มดาวดินระบุว่า ตาข้างขวาของพายุจะไม่สามารถมองเห็นได้อีกแล้ว ส่วนการลืมตา น่าจะสามารถลืมได้มากขึ้นเรื่อยๆ หลังแผลหาย แต่อาจจะลืมได้ไม่เท่าดวงตาข้างซ้าย
นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนนักกิจกรรมเผยว่า พายุยังต้องปรับตัวเรื่องการกะระยะหยิบจับสิ่งของ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “อยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
สำหรับสภาพจิตใจ กลุ่มดาวดินเล่าว่ามีจิตแพทย์เข้ามาประเมินสภาพจิตใจของพายุแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่ากำลังใจยังดีอยู่ และไม่มีอาการที่น่าเป็นห่วงแบบรุนแรง
การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้พายุ นักกิจกรรม และสื่อมวลชนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ จนกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวอีกครั้งในวันที่ 21 พฤศจิกายน เพื่อยื่นหนังสือให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ กมธ.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตำรวจสลายการชุมนุม
และเพื่อให้กำลังใจพายุ พร้อมกับเรียกร้องความรับผิดชอบจากเหตุสลายการชุมนุมของตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) จึงเกิดกิจกรรมการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ #ดวงตาหนึ่งดวงจะสร้างดวงดาวอีกล้านดวง ที่ชวนให้คนออกมาโพสต์รูปปิดตาข้างหนึ่งบนโลกออนไลน์
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประเทศไทยหยุดใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงระหว่างการประชุม APEC พร้อมกับประณามว่าการสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามหลักสากล และมุ่งให้เกิดความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม
อ้างอิงจาก