นับเป็นเรื่องใหญ่ส่งท้ายปี กับคดีทุจริตในกรมอุทยาน ซึ่งสะท้อนปัญหาการทุจริตในหน่วยงานราชการ ซึ่งประชาชนได้ยินกันซ้ำไปซ้ำมา จนแทบไม่มีใครแปลกใจกับเรื่องเหล่านี้แล้ว
ถึงอย่างนั้น นี่ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ควรจับตามอง เมื่อตำรวจบุกจับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่กรมอุทยานฯ จากกรณีเรียกรับเงินสินบนจากผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ โดยผู้ที่ออกมาแจ้งเบาะแสก็เป็นคนที่มีชนักติดหลังจากคดีฆาตกรรมด้วย
The MATTER จึงขอสรุปข่าวใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ มาให้ทุกคนเข้าใจกันว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วเรื่องนี้เกี่ยวโยงไปถึงใครบ้าง
1. ปฏิบัติการนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) ได้รับรายงานว่า ‘รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา’ อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงินสินบนค่า‘ซื้อตำแหน่ง’ จากผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ
ข้อร้องเรียนที่ ป.ป.ช. และ บก.ปปป.ได้รับจากข้าราชการนั้นมีหลายประเด็น เช่น
- ใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม
- กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมจ่ายเงิน 500,000 บาท ไปยังตำแหน่งอื่นๆ ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา หรือที่พักอาศัย
- เรียกเก็บค่าตำแหน่งในการไปเป็นหัวหน้าหน่วยงาน
- เรียกเก็บค่าเลื่อนระดับในตำแหน่งชำนาญการพิเศษและเจ้าพนักงานอาวุโส
- ตัดเปอร์เซ็นค่าใช้จ่ายรายเดือนจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกรม ทั่วประเทศ
- เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
2. พอได้รับแจ้งแบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมแผนการ คือการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอธิบดีกรมอุทยาน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย นำเงินจำนวน 98,000 บาท (ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว) ไปให้อธิบดี เวลา 09.00 น. ของเมื่อวานนี้ (27 ธันวาคม) ณ ห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมบันทึกคลิปและเสียงในช่วงที่พูดคุยกันไว้ด้วย
ที่ต้องเป็นวันที่ 27 ธันวาคม เพราะวันนั้นจะเป็นวันที่มีการประชุมผู้บริหารกรม และผู้บริหารกรมจากหน่วยงานในต่างจังหวัดจะนำเงินมาส่งมอบให้รัชฎา
3. จากนั้น ในระหว่างที่รัชฎากำลังประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในสังกัด ตำรวจ บก. ปปป. ก็เชิญตัวรัชฎา ไปพูดคุยในห้องทำงานส่วนตัว ท่ามกลางความงุนงงของผู้เข้าร่วมการประชุม
เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ก็ตรวจค้นห้อง และพบซองเงินสด 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ยิ่งกว่านั้น ยังเจอของกลางเป็นเงินสดอีกจำนวนเกือบ 5 ล้านบาท อยู่ในซองบนโต๊ะในห้องทำงานของอธิบดี ซึ่งแต่ละซองมีการเขียนจ่าหน้าซองจากหน่วยงานในแต่ละสังกัดเอาไว้ด้วย พร้อมกับพบบัญชีรายชื่อการจ่ายเงินในห้องนี้ด้วย
4. ตำรวจก็เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหารัชฎา ในความผิดฐาน ‘เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต’ ก่อนจะพาตัวรัชฎาไปสอบสวนต่อที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
5. นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงข่าวหลังการจับกุมว่า ก่อนหน้านี้มีข้าราชการในสังกัดมาร้องเรียนว่ารัชฎาเรียกรับเงินสินบนรายเดือน เพื่อแลกกับการดำรงตำแหน่งเดิม หรือโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หากไม่ทำตามก็จะถูกสั่งย้ายอย่างไม่เป็นธรรม จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินสด 98,000 บาท ไปมอบให้ โดยมีหลักฐานคลิปบันทึกเสียงการสนทนา ก่อนจะนำกำลังเข้าจับกุมดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. แถลงว่า รัชฎายังให้การภาคเสธ (แบ่งรับแบ่งสู้) เกี่ยวกับเงินล่อซื้อจำนวนดังกล่าว โดยอ้างว่า ไม่รู้เป็นเงินอะไร ไม่ได้เปิดซองดู จึงเก็บใส่ลิ้นชักไว้ แต่เงินอีกส่วนที่พบในห้อง ผู้ต้องหายังไม่สามารถบอกที่มาของเงินดังกล่าวได้ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังผู้ต้องหามีพฤติกรรมเรียกรับเงินมาตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งอธิบดีฯ ยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานมัดแน่น ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน
6. พนักงานสอบสวนสอบปากคำรัชฏาตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ ไปจนถึงเวลา 22.00 น. ซึ่งเจ้าตัวได้ขอยื่นประกันตัว และพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูงมีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง ประกอบกับมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่น่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้วางเงินสด 400,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
7. ขณะที่ เมื่อวานนี้ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ทราบข้อมูลของเรื่องนี้เท่าที่สื่อรายงาน เรื่องนี้ระเบียบการปฏิบัติราชการ รวมถึงกฎหมาย ป.ป.ช.ว่าอย่างไรให้ดำเนินการตามนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีเรื่องของการซื้อขายตำแหน่งเข้ามาด้วย จะดำเนินการอย่างไร วราวุธ ตอบว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง นโยบายที่ย้ำกับผู้บริหารกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่ง ก็คือขอให้ดำเนินการโดยสุจริต แต่พอเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จึงได้ให้ปลัดกระทรวง ‘ย้ำ’ กับข้าราชการอีกครั้งเรื่องความโปร่งใส และไม่ให้มีการซื้อขายตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จำเป็นต้องไปรื้อการโยกย้ายที่ผ่านมาหรือไม่ วราวุธก็กล่าวว่า ต้องว่ากันตามระเบียบก่อน ปลัดกระทรวงคงต้องหาแนวทางดำเนินการต่อไป
8. แล้วในวันนี้ (28 ธันวาคม) วราวุธก็ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันที่ 4 มกราคม 2566 จะเชิญหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารของกระทรวง ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี รองอธิบดี ทั้งหมดมาที่กระทรวง เพื่อร่วมประชุมย้ำเตือนนโยบายการทำงานที่เคยมอบไว้อีกครั้งหนึ่ง
“ผมเชิญทุกหน่วยงาน มาร่วมประชุมเพื่อย้ำนโยบายของรัฐบาล และนโยบายปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวง ตั้งแต่วันที่เข้ามารับตำแหน่ง รมว.ทส.ปี 2562 และได้ทำงานตามนโยบายเช่นนี้เรื่อยมา เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และจะขันน็อตในกระทรวงให้ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด” วราวุธกล่าว
9. รัชฎา มีศักดิ์เป็นน้องชายของ พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งพล.อ.ยุวนัฏ เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ขอลาออกภายหลัง เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ
ส่วนตัวรัชฏานั้น เคยเป็นรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 จากนั้นก็ได้เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในช่วงวันที่ 30 กันยายน 2560 – 30 กันยายน 2563 แล้วเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้รัชฏารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
10. ประเด็นนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เพราะเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ ‘กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช’ เคยโพสต์รูปของรัชฏา พร้อมด้วยข้อความที่ประกาศว่า “No Gift Policy ทส. โปร่งใสและเป็นธรรม”
“กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอประกาศเจตนารมณ์การเป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส มีมาตรฐานทางคุณธรรม จริยธรรม ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทุกคน ‘งดรับของขวัญและของกำนัลทุกชนิด’ จากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมสุจริตในการปฏิบัติงาน ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ”
เมื่อมีกระแสข่าวดังกล่าวออกมา ประชาชนก็ขุดโพสต์นี้กันออกมาอีกครั้ง และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความย้อยแย้งที่เกิดขึ้น หลังเหตุเรียกรับเงินสินบน
11. ความน่าสนใจของเรื่องนี้ ยังเกี่ยวโยงกับไปกับผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งก็คือ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี โดยเขาระบุว่า ในช่วงนั้นตนอยู่บ้านไม่ได้รับราชการ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกันโทรมาบอกว่าจะโดนย้ายแล้วช่วยบอกผู้ใหญ่ให้หน่อยได้ไหม เพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดว่าตนสามารถช่วยได้
แต่เมื่ออธิบดีฯ คนใหม่เข้ามา ตนไปขอแต่ก็ไม่ได้ และก็มีการโยกย้าย พร้อมทั้งทราบว่า คนไหนไม่ได้จ่ายเงินก็จะโดนย้ายทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีปัญหากับรัชฎาหรือไม่ ชัยวัฒน์ก็ตอบว่า ที่เข้ามาช่วยเปิดโปงเรื่องนี้เพราะทนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ แถมตัวเขาเองยังเคยถูกเรียกสินบน จึงยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา
“ผมเหมือนผูกระเบิดติดตัวพลีชีพ แต่ทำอย่างนี้แล้ว … ลูกน้องอีกหลายร้อยครอบครัวมีความสุข … ผมก็มีความสุข” ชัยวัฒน์กล่าว
12. เมื่อเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ชื่อของ ‘ชัยวัฒน์’ จึงถูกผู้คนพูดถึงอีกครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 15สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้อง สั่งฟ้องชัยวัฒน์และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในข้อหาที่มีคำสั่งฟ้องนั้น มีข้อหา ‘ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว’ จากกรณีฆาตกรรมบิลลี่ พอละจี นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวบ้านในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
อย่างไรก็ดี ในคำสั่งฟ้องนั้น อัยการสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์และพวกในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะมองว่าในขณะที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ และสั่งไม่ฟ้องเอกชนอีก 1 คนในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
ต่อมา เมื่อวันที่ 5 กันยายน ศาลก็ให้ประกันทั้ง 4 คนแล้วโดยตีวงเงินประกันคนละ 8 แสนบาท แล้วในวันที่ 29 กันยายน ศาลก็พิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ลงโทษให้ชัยวัฒน์ออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกคำสั่งดังกล่าว ทำให้ชัยวัฒน์กลับเข้าราชการเหมือนเดิมได้อีกครั้ง
13. ประเด็นนี้ ถูกตั้งคำถามในหลากหลายแง่มุม ซึ่งสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ โดยนำเอาผลคะแนนคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ของกรมอุทยานแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565 มาแสดงว่า ผลคะแนนของหน่วยงานนี้ อยู่ในระดับ A และหมวด การป้องกันการทุจริตก็ได้ 100 คะแนนเต็ม 100 ด้วย
“พูดหลายรอบแล้ว อยากพูดอีกทีว่า โครงการ ITA นี่มีปัญหาตั้งแต่คำถาม วิธีเก็บข้อมูล ฯลฯ ทำให้มันไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย ต้องแก้ไขโดยด่วน ไม่งั้นก็ควรยกเลิกโครงการไปเลยค่ะ เสียเวลาเสียงบโดยใช่เหตุ”
14. นอกจากนี้ ยังมีประเด็นคำถามอีกมากมายที่ประชาชนสงสัย ทั้งความเคลือบแคลงจากการที่ชัยวัฒน์ ผู้มีชนักติดหลังจากคดีฆาตกรรมบิลลี เป็นผู้แจ้งเบาะแสดังกล่าว และคำถามถึงความโปร่งใสในองค์กรในช่วงก่อนที่รัชฏาจะมาเป็นอธิบดีประจำกรมนี้ว่า เคยมีเรื่องแบบเดียวกันเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ รวมถึง ปัญหาจากทุจริตและใช้เส้นสายของคนใหญ่คนโต ที่ทำให้คนสงสัยว่า เรื่องนี้เป็นผลมาจากการขัดแข้งขัดขากันเองในหน่วยงาน หรืออาจโยงถึงฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะช่วงใกล้การเลือกตั้งด้วยหรือเปล่า
คดีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งคดีที่สะท้อนถึงปัญหาการทุจริตในหน่วยงานราชการ และปัญหาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานภาครัฐทั้งหลาย ซึ่งเราต้องรอติดตามกันต่อไปว่า ทิศทางของคดีนี้จะเป็นเช่นไรต่อไป
อ้างอิงจาก