กลายเป็นประเด็นดราม่าข้ามวันข้ามคืนทันที หลัง ‘บิว—จักรพันธ์ พุทธา’ นักแสดงซีรีส์วายถูกคนรักเก่าแฉพฤติกรรม เช่น ทำร้ายร่างกาย คบซ้อน และใช้เงินฝ่ายหญิง จนแฮชแท็ก #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ซึ่งการออกมาแฉครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการกล่าวหาด้วยลมปากเท่านั้น เพราะฝ่ายหญิงโพสต์หลักฐานบางอย่างลงโซเชียลมีเดีย และระบุด้วยว่ากำลังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายแล้ว จนต้นสังกัดถึงกับสั่ง ‘พักงาน’ นักแสดงหนุ่มอย่างไม่มีกำหนด
ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นักแสดงรายนี้เคยทำพฤติกรรมอะไรไว้บ้าง และผลที่ตามมาเป็นอย่างไร The MATTER สรุปไว้ให้แล้ว ดังนี้
1. ใครคือบิว? บิว—จักรพันธ์ พุทธา คือนักแสดงหน้าใหม่ของวงการบันเทิง โด่งดังมาจากบทบาท ‘พีท’ หนึ่งในตัวละครคู่รองจากซีรีส์วายเรื่อง ‘คินน์พอร์ช สตอรี่: รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก’ ซึ่งบทนี้ทำให้เขาแจ้งเกิดและมีแฟนคลับจากทั้งในไทยและต่างประเทศ ถึงกับมี world tour ที่ได้เดินทางไปเจอแฟนคลับต่างชาติเลยทีเดียว
ซีรีส์คินน์พอร์ช สตอรี่ คือซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวความรักของลูกชายมาเฟียและบอดี้การ์ดหนุ่ม ออกอากาศเมื่อเมษายน ปี 2565 เรื่องราวและบทเขียนโดย ‘Daemi’ (แดมี่) นามปากกาของนักเขียน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปอย—พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ แฟนเก่าของบิว
2. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ค่ายของบิวและนักแสดงคู่จิ้น ไบเบิ้ล—วิชญ์ภาส ประกาศว่า 2 คนนี้เตรียมรับบทนำคู่กันในซีรีส์เรื่องใหม่ ‘4 Minutes’ พร้อมกับปล่อยโปสเตอร์และทีเซอร์ออกมาให้แฟนๆ ชื่นชม จนกระทั่งปอยออกมาพูดว่า เนื้อหาของซีรีส์ 4 Minutes มีพล็อตคล้ายกับนิยายที่เธอคิดและเคยเล่าให้บิวฟัง ซึ่งเธอพยายามติดต่อบิวเพื่อสอบถามแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
3. มหากาพย์การแฉบิวจึงเริ่มต้นขึ้น เพราะหลังจากนั้น ปอยก็ทวีตแถลงการณ์เล่าพฤติกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างเธอและบิว เริ่มจากการแนบหลักฐานแชทส่วนตัวว่าเคยเล่าถึงพล็อตเรื่อง 4 Minutes ให้บิวฟังมาก่อน
4. แต่เรื่องที่ร้ายแรงกว่าการลอกบท คือ ปอยเผยว่าตนเคยคบหากับบิวในฐานะแฟนนาน 2 ปี และอ้างว่าบิวทำร้ายร่างกายเธอแบบที่มีผู้รับรู้เหตุการณ์และพยายามห้ามมาโดยตลอด ซึ่งดำเนินการฟ้องร้องและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว
ปอยไม่ได้ออกมาพูดลอยๆ เธอโพสต์แชทไลน์ที่อ้างว่าคุยกับบิว ซึ่งในแชทนั้น ปอยส่งภาพรอยฟกช้ำคล้ายกับโดนทำร้ายร่างกายไปหาบิว โดยส่วนหนึ่งของบทสนทนา บิวเคยตอบกลับข้อความว่า “เอาซะกุรู้สึกผิดเลย” “ทุกครั้งที่ต่อยกูต่อยจริงนะ” “อยากฆ่า” และ “เจ็บนิดเจ็บหน่อยอย่าสำออยอิดอก”
ครั้งหนึ่ง ปอยส่งภาพรอยช้ำที่แขนไปให้บิวพร้อมบอกว่าที่บ้านจะพาไปหาหมอ บิวตอบกลับว่า “หาหมอทำไม เดะก็หาย” และปอยตอบกลับว่า “มึงทำทุกวัน”
5. นอกจากนี้ ปอยอ้างว่าบิวคบซ้อนมาโดยตลอดระยะเวลาที่คบกับเธอ แถมยังนำสิ่งของ รถยนต์ และเงินไปให้ผู้หญิงคนอื่นใช้ เช่น เอารถไปใช้กับผู้หญิงคนอื่น เป็นต้น จนเป็นเหตุให้เลิกรากัน แต่ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนเองปกป้องและดูแลภาพลักษณ์ของบิวมาโดยตลอด จึงไม่เคยออกมากล่าวหาใดใด
ทั้งนี้ ปอยย้ำว่าตนติดต่อบิวไม่ได้เลย แต่ก็พยายามติดต่อผ่านคนรอบข้าง จนได้สิ่งของและเงินจำนวนหนึ่งคืนมาบางส่วน
6. 2 คนนี้เลิกรากันเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งปอยยืนยันว่าที่เธออกมาพูด เพราะอยากปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิง และไม่ได้ติดใจประเด็นใดๆ นอกจากการทำร้ายร่างกาย
“ทั้งนี้ เป็นความผิดของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งตัว นส.พรรธน์ชญมน (ปอย) ที่ยอมถูกโดนกระทำโดยไม่ออกมาพูดความจริงใดๆ ซ้ำยังโกหกคนรอบข้างว่าไม่ได้โดนนายจักรพันธ์ (บิว) ทำร้ายมาโดยตลอด เพื่อปกป้องและหวาดกลัวว่าคนจะมองไม่ดี และขอยืนยันว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น”
“หลักฐาน พยานบุคคล ได้ถูกนำเข้ากระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยตอนนี้ นส.พรรธน์ชญมน (ปอย) อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวและคนรอบข้างเป็นอย่างดี” คือข้อความที่ปรากฎบนแถลงการณ์จากปอย
7. นอกจากหลักฐานแชทแล้ว ปอยเปิดเผยหลักฐานเส้นทางทางการเงินที่โอนเข้าบัญชีของบิวไว้ด้วย หากเป็นภาพที่โพสต์จริง ก็จะเห็นได้ว่าปอยโอนเงินให้บิวไปอย่างน้อย 2,735,000 บาท ซึ่งปอยอธิบายไว้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ เติมเกม เป็นต้น
8. แย่ไปกว่านั้น ปอยเล่าด้วยว่า เธอเคยตั้งท้อง แต่บิวไม่รับ อ้างว่าบิวบอกให้ตนเลือกระหว่างความฝันของเขาหรือจบลงแค่นี้ แต่สุดท้ายเธอก็แท้งลูก เพราะทายานต้านโรคซึมเศร้าตอนที่ไม่รู้ตัวว่าท้อง ประกอบกับเครียดมาก จนแท้งลูก
9. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิวมีประเด็นจนทัวร์ลง ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกชาวเน็ตขุดถึงข้อความที่เคยโพสต์ในอดีต ซึ่งข้อความเหล่านั้นมีทัศนคติเหยียดเพศและเชื่อมโยงกับการล่วงละเมิดทางเพศด้วย เช่น เขาเคยโพสต์ข้อความเมื่อปี 2557 ว่า “น่าแปลกที่บางคนแต่งตัวโป๊เปลือยโชว์ลงโลกออนไลน์ แต่กลับตั้งสเตตัสรณรงค์ข่มขืนแล้วประหาร แทนที่จะเริ่มจากตัวเอง (ความเห็นส่วนตัวอยากจะบอก)”
หรือเคยตอบคำถามใน ask.fm เมื่อปี 2558 ว่า “ถือโอกาสให้เป็นวิกฤติครับ ในเมื่อลองแล้ว ก็เป็นประสบการณ์ไปอีกแบบ ถือซะว่าชีวิตนี้คุ้มแล้วครับ ยิ่งเยอะยิ่งเลอะประสบการณ์” เมื่อโดนถามว่า ผมโดนเพื่อนผู้ชายในห้องข่มขืนทำยังไงดี
10. เหตุการณ์นี้นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในวงกว้าง จนแฮชแท็ก #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ แน่นอนว่ามีทั้งคนที่ก่นด่า เช่น ทำไมทำร้ายร่างกายผู้หญิง ทำไมถึงมีพฤติกรรมลักษณะนี้ ทำไมคนอย่างนี้ถึงยังมีพื้นที่ในวงการบันเทิง เป็นต้น แฟนคลับบางคนถึงกับออกตัวว่าจะเลิกสนับสนุน เพราะรับไม่ได้ในพฤติกรรมแบบนี้
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีแฟนคลับที่เชื่อใจและปกป้องบิว พร้อมกับต่อว่าปอย เช่น ทำไมเพิ่งมาแฉ กุเรื่องหรือเปล่า เป็นต้น จนมีแฟนคลับทั้งไทยและเทศถึงกับสร้างแฮชแท็ก #welovebuild ขึ้นมาเพื่อปกป้องบิวเลยทีเดียว
11. อย่างไรก็ดี 21 มกราคมที่ผ่านมา บิวไปออกงานอีเวนต์พอดี เขาจึงชี้แจงกับแฟนคลับที่มาให้กำลังใจว่า ตนเคยสนิทกับปอยจริง มีเวลาที่ดีร่วมกัน แต่ไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว และไม่เคยคิดทำร้ายใครทั้งทางกายและทางใจ พร้อมกับขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังและเสียใจ
“ผมพยายามทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน เพราะรู้ว่ามีคนที่รักและซัพพอร์ตผม อยู่กับผมเจ็บปวดหน่อยนะครับ” บิวกล่าว ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ระงมของเขาเองและแฟนคลับ
ส่วนเรื่องพล็อตซีรีส์ 4 Minutes เขายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นทั้งพล็อตและชื่อเรื่อง แต่ก็ยอมรับว่าปอยเคยเล่าให้ฟังจริง ซึ่งเขาไม่ได้เอาไปบอกใครต่อ
12. ไม่เพียงแค่นี้ บิวยังออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มเติมด้วยการโพสต์แชทที่โดนปอยด่าลงทวิตเตอร์ ซึ่งเนื้อหาก็มีการด่าทอและใช้คำหยาบคาย แต่บิวดันโดนทัวร์ลงกลับว่า ก็ที่ปอยต้องด่า เพราะบิวไม่ยอมเคลียร์ให้ชัดเจน ไม่ยอมรับสาย ไปจนถึงเคยทำร้ายร่างกาย ทำไมจึงคาดหวังให้ปอยคุยด้วยดีๆ
ทัวร์ลงบิวหนักมาก และประเด็นบิวก็กลายเป็นที่พูดถึงหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนบิวถึงกับต้องปิดบัญชีทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของตนเอง
13. ต่อมา บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัด ออกประกาศพักงานบิวอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้ข้อสรุปของเรื่องราวอย่างชัดเจน
“คุณจักรพันธ์จะถูกพักงานทั้งหมดโดยไม่มีกำหนด ที่สำคัญที่สุด คุณจักรพันธ์ จะไม่มีส่วนร่วมในโปรเจ็คใด ๆ ของบริษัทฯ ที่ดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ โดยให้มีผลในทันที เขาจะใช้เวลาในระหว่างนี้หยุดเพื่อไตร่ตรองและทบทวนอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับการกระทำของตนเองและจัดการกับข้อพิพาทและคดีความของเขา การพักงานจะมีผลจนกว่าข้อพิพาทจะได้รับการแก้ไขและได้ข้อสรุปที่ชัดเจน” คือข้อความที่ระบุในแถลงการณ์จากบริษัทต้นสังกัด
14. ปลายทางของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรเราก็ยังไม่อาจรู้ได้ แต่ประเด็นนี้ก็นำมาสู่การตั้งคำถามในวงกว้างว่า การทำร้ายร่างกายผู้อื่นคือเรื่องที่สมควรหรือไม่ หรือทำไมนักแสดงที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ถึงยังมีที่ยืนในวงการบันเทิงไทยอยู่
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/zpoimy_zpoimy/status/1616984687095975943