ฆ่าผู้หญิงเพื่อเกียรติยศของสังคม ของครอบครัว หรือของผู้ชาย?
เรื่องราวอันน่าเศร้านี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ติบา อัลอาลี (Tiba al-Ali) หญิงชาวอิรักวัย 22 ปี ถูกพ่อของเธอสังหารด้วยการบีบคอตอนกลางคืนขณะที่เธอหลับ ซึ่งต่อมาเขาก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ
ก่อนหน้านี้เธอย้ายไปอยู่ตุรกี แต่กลับมาอิรักอีกครั้ง ซึ่งตำรวจคาดการณ์ว่าเธอกลับมาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทในครอบครัวบางอย่าง นอกจากนี้ หลังจากที่พ่อฆ่าเธอแล้ว เขายังเข้ามอบตัวกับตำรวจเลย โดยไม่ได้อธิบายว่าพวกเขาทะเลาะอะไรกัน แต่ตำรวจคาดว่าเพราะพ่อไม่พอใจที่เธอไปอยู่ตุรกีแล้วอัดวิดีโอใช้ชีวิตร่วมกับแฟนหนุ่ม
เหตุการณ์นี้ ทำให้กลุ่มสิทธิสตรีและผู้อยู่อาศัยในอิรัก ออกมาประท้วงที่หน้าศาลอิรักและประณามเรื่องความรุนแรงต่อสตรีและเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมาย เพื่อกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นต่อผู้กระทำความผิด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไม่มีกฎหมายฉบับใดในอิรักที่เอาผิดกับความรุนแรงในครอบครัว
ร่างกฎหมายว่าด้วยความรุนแรงในครอบครัวเคยถูกเสนอต่อรัฐสภาในปี 2014 แต่กฎหมายดังกล่าวก็ไม่คืบหน้า เพราะสมาชิกสภานิติบัญญัติเชื่อว่ากฎหมายดังกล่าวจะ ‘ทำลายโครงสร้างทางสังคมของอิรัก’ ทำให้การฆ่าเพื่อเกียรติยศยังคงอยู่
การเสียชีวิตของอัลอาลีจุดชนวนความโกลาหลในหมู่ชาวอิรักบนโซเชียลมีเดีย โดยเรียกร้องให้ประท้วงในเมืองหลวงแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเสียชีวิตของเธอ
การสังหารนั้น เรียกว่า ‘การฆ่า (ผู้หญิง) เพื่อเกียรติยศ’ หรือ ‘honour killing’
“ใครก็ตามที่ต้องการกำจัดผู้หญิงคนหนึ่ง จะกล่าวหาว่าผู้หญิงคนนั้น มีมลทินมัวหมอง แล้วก็ฆ่าเธอ” อิสรา อังซัลมัน (Israa al-Salman) ผู้ประท้วง กล่าวกับ AP และย้ำว่าต้องการให้พ่อของหญิงสาวถูกประหารชีวิตด้วย
มาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญาของอิรัก อนุญาตให้สามีลงโทษและสั่งสอนให้ภรรยามีวินัย ซึ่งรวมถึงการเฆี่ยนตี และขณะเดียวกัน มาตรา 409 ก็วางหลักให้ลดโทษแก่ผู้ชายที่ฆ่าภรรยาหรือญาติผู้หญิงที่ผิดประเวณี ให้ต้องรับผิดเพียง 3 ปีในคุก จากปกติต้องรับโทษประหารชีวิต
อัลลา ทาลาบานี (Ala Talabani) นักการเมืองของอิรักทวีตว่า “ผู้หญิงในสังคมของเราเป็นเพียงตัวประกันต่อขนบธรรมเนียมที่ล้าหลังเนื่องจากไม่มีกฎหมายและมาตรการของรัฐบาลมาควบคุม…”
ทางด้านอายา มาซุบ (Aya Majzoub) รองผู้อำนวยการของแอมเนสตี้ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือก็กล่าวว่า “จนกว่าทางการอิรักจะมีกฎหมายที่เข้มงวดเพื่อปกป้องผู้หญิงและเด็กผู้หญิง … เราจะยังคงเห็นการฆาตกรรมอันน่าสยดสยองต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
อ้างอิงจาก