เข้าสู่วันที่ 31 ของการอดอาหารของ ตะวัน—ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม—อรวรรณ ภู่พงษ์ แล้ว วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ทนายความเข้าเยี่ยมตะวันและแบมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และชี้แจงเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงยังสู้อยู่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตะวัน
ทั้งสองระบุว่า เนื่องจากพวกเธอตัดสินใจแล้ว และในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่คิดมาเป็นอย่างดี คนทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่มีใครสมควรถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
แม้พวกเธอจะไม่รู้จักนักโทษทางการเมืองแต่ละคนเป็นการส่วนตัว และรู้ว่าหลายคนที่ได้ปล่อยตัวออกมาก็อาจไม่สนับสนุนวิธีการนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาถูกกระทำเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงอยากเรียกร้อง เพราะต้องการบ้านเมืองที่ดีกว่านี้ และมาจนถึงวันนี้ก็ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองได้ทำไปเป็นเรื่องไร้ประโยชน์
ทั้งสองยังอธิบายอีกว่า นับแต่ศาลถอนหมายขังแล้วปล่อยพวกเธอออกมาเฉยๆ ทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ พวกเธอก็รับรู้แล้วว่า โลกของผู้ใหญ่เป็นเช่นไร ผู้ใหญ่คิดอย่างไร แต่ทั้งคู่ยังไม่รู้สึกหมดหวัง จึงยังตัดสินใจอยากทำต่อไป โดยไม่มีอะไรที่ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น
ส่วนอาการของทั้งคู่ตอนนี้ ตะวันมีอาการป่วย มีน้ำมูกและมีเสมหะสีเขียว แน่นจมูก มีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย โต้ตอบได้ ไม่มีเลือดออกผิดปกติที่อื่น ไม่มีไข้ ยังคงปวดแขน นอนได้น้อย ขณะยืนตาพร่า การคิดและความจำช้าลง ตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย
ในขณะที่แบม ยังมีอาการอ่อนเพลีย โต้ตอบได้ แสบท้อง มีลมในท้อง ปวดแขนเช่นกัน นอนหลับได้ การคิดและความจำช้าลง การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะกับเรื่องราวที่พูดคุย
อย่างไรก็ตามทางแพทย์ได้ให้ข้อมูลว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นผลจากสารอาหารไม่เพียงพอและแนะนำให้ทั้งคู่กลับมารับประทานอาหาร
ขณะที่ เก็ท—โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ก็ออกแถลงการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของตะวันไว้ว่า ในวันนี้ เขาตื่นประท้วงเป็นวันที่ 11 แล้ว โดยอาการของเขาไม่ดีนัก ไม่มีแรง พูดได้ช้าลง ตาขยับตลอด ไม่สามารถโฟกัสได้ มือสั่นแรงมาก แล้วรู้สึกเหมือนเคาะกระจกตลอดเวลา การอดนอนเริ่มทำให้สุขภาวะจิตมีปัญหา
“แต่ผมคิดว่าเนื่องจากไม่ใช่การอดอาหารซึ่งเห็นผลทางร่างกาย เรือนจำจึงค่อยข้างเฉยเมย”
เก็ทยังกล่าวถึงกลุ่มทะลุแก๊สที่ได้ประกันตัวออกไปแล้วว่าดีใจที่พวกเขาออกไปเจอเพื่อนๆ เช่นเดียวกับเก็ท ใบปอ ที่เฝ้ารอจะออกไปเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งยังขอบคุณความห่วงใบจากตะวันและแบมที่ส่งเข้าไป แม้ว่าเก็ทจะยังอยู่ในเรือนจำที่ไม่สามารถได้ข่าวคราวอย่างเต็มที่ เขาก็ยังเชื่อว่าการต่อสู้ยังมีอยู่เสมอมา
ทั้งนี้เก็ทยังมี 2 ข้อเรียกร้องคือ
- ผู้ต้องขังคดีการเมืองต้องได้รับการประกันตัวออกมา
- ไม่คุมขังผู้ต้องหาใดๆ อีก โดยไม่เป็นธรรม
และเก็ทยังทิ้งท้ายไว้ว่าเมื่อการต่อสู้ของเราสำเร็จ ผมหวังที่จะเดินออกไปสู่ประเทศที่ดีกว่านี้
อ้างอิงจาก