“ประสบการณ์นี้ทำให้เราเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ครั้งต่อไป นั่นคือการส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคาร”
เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับการสำรวจจักรวาล หลังเมื่อวานนี้ (15 มีนาคม) NASA ออกมาเปิดเผยชุดอวกาศอาร์ทิมิส 3 (Artemis III) ที่นักบินอวกาศจะสวมใส่ระหว่างเดินทางไปทำภารกิจบนดวงจันทร์ในปี 2025 โดยชุดดังกล่าว ออกแบบโดยบริษัทท่องเที่ยวอวกาศ แอกเซียม สเปซ (Axiom Space) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ไซไฟยอดนิยมเรื่อง For All Mankind
ขอเล่าก่อนว่า ภารกิจอาร์ทิมิส คือภารกิจที่ตั้งเป้าส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ ซึ่งภารกิจอาร์ทิมิส 1 จะไม่บรรทุกนักบินขึ้นไปด้วย แต่จะอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ประมาณ 3 วัน ภารกิจนี้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปี 2021 และภารกิจ อาร์ทิมิส 2 จะบรรทุกนักบินอวกาศ 4 คน แล้วบินผ่านจากดวงจันทร์ โดยทีมนักบินอวกาศชุดนี้จะได้เข้าไปยังห้วงอวกาศที่ลึกสุดเท่าที่มนุษย์เคยเดินทางไป ซึ่งจะเริ่มเดินทางในปี 2024 และภารกิจอาร์ทิมิส 3 ก็จะเดินทางตามไปหลังถัดไปอีก 1 ปี
ดังนั้น ภารกิจอาร์ทิมิส 1 และ 2 จึงเป็นเสมือนการ ‘ซ้อมใหญ่’ สำหรับภารกิจอาร์ทิมิส 3 นั่นจะนำมนุษย์อวกาศหญิงชาวอเมริกันที่ไม่ใช่คนผิวขาวคนแรก ลงเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์
กลับมาเรื่องชุดอวกาศอาร์ทิมิส บริษัท Axiom เปิดเผยว่า พวกเขาทำงานร่วมกับนักออกแบบเครื่องแต่งกายจากภาพยนตร์ อย่าง Shang-Chi and the Legend of the 10 Rings, Planet Terror แต่หลังจากการเผยแพร่ชุดนี้ออกมา ผู้คนหลายคนก็นำไปเปรียบเทียบกับชุดต่างๆ นานา อาทิ ทาริค มาลิก (Tariq Malik) หัวหน้ากองบรรณาธิการของ Space.com กล่าวว่า “ชุดนี้ดูคล้ายกับตัวละครในวิดีโอเกมยอดนิยมอย่าง ฟอร์ทไนท์ (Fortnite)”
อย่างไรก็ตาม ชุดอวกาศดังกล่าวใช้วัสดุหุ้มสีเทาเข้ม แต่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ท้ายสุดแล้วสีของชุดนี้น่าจะถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวล้วนแทน เพื่อความปลอดภัย และสบายตัวมากขึ้น ขณะนักบินอวกาศอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบันอย่างดวงจันทร์ โดยคำว่า ‘อาร์ทิมีส’ เป็นชื่อของเทพเจ้ากรีกที่เกี่ยวกับพระจันทร์และการล่าสัตว์
NASA เลือกบริษัท Axiom ให้เตรียมระบบการเดินทางบนดวงจันทร์ เพื่อนำนักบินอวกาศคนแรกลงจอดใกล้กับขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ให้ได้ ซึ่งการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 องค์กร ช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอวกาศเติบโตเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรที่สามารถให้การเดินทางบนอวกาศ โดยเฉพาะการเดินทางไปยังดวงจันทร์ผ่านไปราบรื่น
ไม่เพียงเท่านั้น NASA ยังย้ำว่า ชุดอวกาศใหม่นี้ช่วยให้มนุษย์สำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขีดความสามารถในการสำรวจอวกาศของมนุษย์ ทั้งจรวดของ ระบบการส่งอวกาศ (Space Launch System) ยานอวกาศโอไรออน (Orion) ระบบภาคพื้นสำรวจ สถานีอวกาศเกตเวย์ที่อยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ และระบบลงจอดของมนุษย์ ล้วนจะช่วยให้ NASA สามารถส่งมนุษย์ไปสู่ดวงจันทร์เพื่อการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ หรือหวังว่ามนุษย์จะไปยังรกรากอยู่ที่นั่นได้ในอนาคต
ทั้งนี้ NASA กล่าวทิ้งท้ายว่า “ประสบการณ์นี้ทำให้เราเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ครั้งต่อไป นั่นคือการส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคาร”
ประโยคข้างต้นคล้ายคลึงกับคำพูดแรกของ นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) นักบินอวกาศ หลังเขาเหยียบลงพื้นผิวดวงจันทร์ครั้งแรก โดยเขากล่าวว่า “ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ แต่เป็น ‘ก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่’ ของมนุษยชาติ” ซึ่งประโยคดังกล่าวกลายเป็นประโยคที่เป็นตำนานไปตลอดกาล เพราะสะท้อนความฝันอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่สามารถเดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้
อ้างอิงจาก