“คุณสามารถเปลี่ยนความจริงในหนังสือได้ แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศได้”
การแก้ไข บิดเบือน หรือลบความจริงของประวัติศาสตร์มีให้เห็นอยู่ในหลายประเทศ และเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลอินเดียถูกกล่าวหาว่า พวกเขากำลังเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ หลังจากลบเนื้อหาในหนังสือเรียนที่มีการอ้างถึงประวัติศาสตร์การปกครองโดยชาวมุสลิม การประท้วงเรื่องศาสนา และการต่อต้านของคานธีต่อความเป็นชาตินิยมของชาวฮินดู
พรรคภารตียชนตา (BJP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กำลังผลักดันแนวทางชาตินิยมของชาวฮินดู คือการย้ายอินเดียออกจากประวัติศาสตร์โลก โดยการใช้วิธีเขียนประวัติศาสตร์ของประเทศใหม่ เพื่อแยกตัวออกจากสิ่งที่เรียกว่า ‘ศีลธรรมแบบทาส (Slave Mentality)’ ที่ชาวอินเดียเคยประสบจากการโดนกดขี่ในสมัยตกอยู่ภายใต้อาณานิคม
“มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องเขียนประวัติศาสตร์ของเราเอง” อมิท ชาห์ (Amit Shah) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกล่าว
ตั้งแต่พรรค BJP ขึ้นสู่อำนาจในปี 2014 ก็มีการแก้ไขหนังสือเรียนหลายครั้ง โดยนักวิจารณ์กล่าวหาว่า หลักสูตรในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็น ‘การย้อมสี (Saffronisation)’ ให้กับกลุ่มชาตินิยมชาวฮินดู
อย่างไรก็ดี เนื้อหาในหนังสือเรียนที่ถูกลบออกไปแล้ว ได้แก่ ประวัติศาสตร์การต่อต้านความเป็นชาตินิยมของชาวฮินดูโดยมหาตมา คานธี (Mahatma Gandhi) และการจลาจลประเด็นศาสนาในสมัยนายกรัฐมนตรีนเรนทระ โมที (Narendra Modi) เมื่อปี 2002 เป็นเหตุการณ์การโจมตีชาวมุสลิมอย่างโหดเหี้ยมและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน รวมทั้งประวัติศาสตร์ในสมัยจักรวรรดิโมกุล (Mughal) ผู้ปกครองชาวมุสลิมที่ครอบครองอินเดียในระหว่างศตวรรษที่ 16-19
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมัยจักรวรรคโมกุลกลายเป็นสิ่งที่ชาวฮินดูมองว่า เป็นยุคแห่งการกดขี่ชาวฮินดู จนประวัติศาสตร์เรื่องนี้ถูกลบออกหรือแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาโดยตลอด
แต่วิเนยัก ดาโมดาร์ สวราการ์ (Vinayak Damodar Savarkar) ผู้มีอุดมการณ์ชาตินิยมฮินดูกลับถูกยกย่องในฐานะ ‘นักต่อสู้เพื่อเสรีภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด’ และ ‘ผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่’ ในหนังสือเรียนรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ฉบับใหม่ที่จัดพิมพ์โดยสภาวิจัยและฝึกอบรมทางการศึกษาแห่งชาติ (NCERT) ซึ่งการแก้ไขครั้งนี้ไม่มีการแจ้งต่อสาธารณชนก่อน
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในหนังสือเรียนสำหรับเด็กอายุ 17-18 ปี บางคนกล่าวว่า เป็นการกระทำที่พยายามลบล้างผู้เห็นต่าง อย่างเรื่องราวของคานธีนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพผู้โด่งดัง ที่ในขณะนั้นชาวฮินดูชาตินิยมพยายามลอบสังหารเขาหลายครั้ง จนในที่สุดคานธีก็ถูกสังหาร ซึ่งปัจจุบันคานธียังคงถูกประณามจากผู้รักชาติชาวฮินดูบางคน เพราะความคิดเห็นของเขาที่เกี่ยวกับความเป็นเอกภาพของชาวฮินดูและมุสลิม โดยเฉพาะตั้งแต่ รัฐบาล BJP ขึ้นสู่อำนาจ ก็มีผู้คนแสดงความเคารพต่อผู้สังหารคานธีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์และนักการเมืองฝ่ายค้านประณามการแก้ไขหนังสือเรียนอย่างกว้างขว้าง “คุณสามารถเปลี่ยนความจริงในหนังสือได้ แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศได้” มัลลิการ์จุน คาร์เก (Mallikarjun Kharge) ประธานพรรคคองเกรสฝ่ายค้านกล่าว
ไม่เพียงเท่านี้ อดิตยา มุกเคอร์จี (Aditya Mukherjee) ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์อินเดียร่วมสมัยแห่งมหาวิทยาลัยเยาวหราลเนห์รู กล่าวว่า การลบประวัติศาสตร์จักรวรรดิโมกุลออกจากหนังสือถือเป็นความพยายามที่จะ ‘สร้างอาวุธ’ และ ‘ลบ’ ประวัติศาสตร์เพื่อให้เหมาะกับวาระทางการเมืองของรัฐบาลชุดนี้
“เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นการลบประวัติศาสตร์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกจากประวัติศาสตร์ ผลที่ตามมาก็มักจะเป็นความขัดแย้ง หรือถ้าในทางเลวร้ายที่สุดก็คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” มุกเคอร์จีกล่าว
อ้างอิงจาก
