ที่ผ่านมา เรามักเห็นเห็นบทภาพยนตร์ไซไฟว่าด้วยสงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ แต่ในวันนี้ คนที่สร้างสรรค์เรื่องราวเหล่านั้นขึ้นมา กลับต้องมารับบทตัวเอกในการต่อสู้ครั้งนี้แทน
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่สมาคมนักเขียนบทอเมริกา (Writer’s Guild of America หรือ WGA) ซึ่งเป็นตัวแทนของนักเขียน 11,500 คน นัดหยุดงานประท้วงให้มีการจำกัดการใช้ AI ในการเขียนบทภาพยนตร์และโทรทัศน์ ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 พฤษภาคม) เพราะทางสูดิโอฮอลลีวูดปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว โดยระบุว่า พวกเขาจะหารือเรื่องเทคโนโลยีใหม่ปีละครั้งเท่านั้น
ทางนักเขียน นักเขียนมีข้อกังวล 2 ข้อด้วยกัน ประเด็นแรกคือ พวกเขาไม่ต้องการเป็นผู้แก้งานที่เละเทะของ AI
“สิ่งที่ AI ทำได้คือการเขียนเรื่องที่อ่านไม่รู้เรื่อง” วอร์เรน เลห์ท (Warren Leight) นักเขียนคนหนึ่งกล่าว พร้อมทั้งยังบอกอีกว่าจากปกติที่สตูดิโอจะจ้างนักเขียนให้เขียนบทในดราฟต์แรกเลย แต่พวกเขาก็อาจจะจ้างคุณให้มาแก้งานในดราฟต์ที่ 2 แทน ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนน้อยกว่า
ทางสมาคมยื่นข้อเสนอว่า งานที่ AI เป็นผู้เขียน ไม่สามารถเรียกว่างานต้นฉบับได้ ดังนั้น ถ้าสตูดิโอจะจ้างให้นักเขียนมาแก้งานที่ AI สร้างขึ้น สตูดิโอจะไม่สามารถจ่ายเงินในเรทเดียวกับการจ้างให้แก้ไขงานที่มนุษย์สร้างขึ้นในดราฟต์แรกได้
ส่วนประเด็นที่ 2 คือไม่ต้องการให้งานของพวกเขาถูกใช้เป็นข้อมูลในการเรียนรู้ของ AI เพราะสิ่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการขโมยงานของพวกเขา หรือนักเขียนบางคนก็บอกว่า AI นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ ‘เครื่องลอกผลงาน’
อย่างไรก็ดี การนัดหยุดงานในครั้งนี้ยังมีส่วนมาจาก การที่พวกเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่กับ Alliance of Motion Picture and Television Producers (AMPTP) ซึ่งเป็นตัวแทนของสตูดิโออย่าง Disney และ Netflix อีกเช่นกัน
แม้ว่าปัจจุบันจะมีการสร้างซีรีส์และภาพยนตร์มากขึ้นทุกปี ซึ่งหมายถึงนักเขียนก็มีงานเพิ่มขึ้น แต่สมาชิก WGA ระบุว่า โดยรวมแล้วพวกเขาทำเงินได้น้อยลง เพราะนักเขียนสำหรับซีรีส์สตรีมมิ่งได้รับค่าจ้างเพียง 46% ของค่าจ้างที่นักเขียนบทซีรีส์ในโทรทัศน์เท่านั้น
ทั้งนี้ การนัดหยุดงานของ WGA เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปี 2007-2008 ซึ่งกินเวลานาน 3 เดือน ส่งผลให้มีการสูญเสียงาน 37,700 ตำแหน่ง และแคลิฟอร์เนียตอนใต้สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 2.1 พันล้านดอลลาร์ (ราวๆ 7.1 หมื่นล้านบาท) อีกทั้ง ยังมีการคาดการณ์อีกว่า การนัดหยุดงานในครั้งนี้ ก็ยังมีศักยภาพมากพอที่จะสร้างความวุ่นวายในอุตสาหกรรมบันเทิงได้เช่นกัน
อ้างอิงจาก