เพราะผิวแตกลายคือเรื่องปกติที่สามารถเกิดได้กับใครหลายๆ คน
เช่นเดียวกับ เคท แคลกซ์ตัน (Kate Claxton) คุณแม่ชาวอังกฤษ ที่มีรอยแตกลาย โดยสิ่งที่เธอเลือกทำก็คือการสร้างความเข้าใจว่ารอยแตกลายคือเรื่องปกติให้กับลูกสาววัย 3 ขวบ ผ่านการเพนต์รอยแตกลายบนตัวตุ๊กตาบาร์บี้ด้วยน้ำยาทาเล็บ
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น แคลกซ์ตันก็เล่าว่าเธอมีรอยแตกลายมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น และรอยนั้นก็เห็นชัดขึ้นหลังจากที่คลอดลูก จนทำให้เกิดความวิตกกังวลหลังคลอดและไม่มั่นใจในร่างกายของเธอ ซึ่งตอนแรกเธอก็เกลียดรอยเหล่านั้น แต่ตอนนี้กลับรู้สึกภูมิใจกับมันแล้ว
อีกทั้ง ตอนนี้ลูกสาวของเธอก็เป็นแฟนตัวยงของบาร์บี้ แต่เธอกลับรู้สึกว่าไม่มีบาร์บี้ตัวไหนที่สามารถเป็นตัวแทนร่างกายของเธอได้เลย
แคลกซ์ตันเล่าต่อว่า หลังจากนั้น ลูกของเธอไม่ได้แสดงความเห็นอะไรเกี่ยวกับรอยแตกลายที่เธอเพนต์ ซึ่งเธอก็คิดว่าเป็นเรื่องดี และทำให้เห็นว่ารอยแตกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับลูกสาวเธอไปแล้ว
“ฉันอยากให้บริษัท ผลิตบาร์บี้ที่มีรอยแตกลาย เพื่อกระจายข้อความว่า ไม่มีอะไรที่น่ากังวลเกี่ยวกับมัน” แคลกซ์ตันกล่าว
แคลกซ์ตันก็ยังซื้อตุ๊กตาที่มีความหลาหลาย เช่นตุ๊กตาที่มีขาเทียม เป็นโรคด่างขาว และตุ๊กตาที่มีรูปร่างใหญ่กว่าตุ๊กตาที่พบได้ทั่วไป ซึ่งจนถึงตอนนี้เธอยังไม่เจอตัวไหนที่มีรอยแตกลาย
นอกจากนี้ แคลกซ์ตันยังเขียนหนังสือ ‘แม่ฉันคือเสือ’ (My Mum’s a Tiger) ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กหญิงที่เรียนรู้ว่าทำไมแม่ของเธอถึงมี ‘รอย’ บนผิวหนัง โดยเธอระบุว่า “ฉันแค่คิดว่ามันสำคัญมากที่จะเปิดเผยให้ลูกๆ ของเรามีความหลากหลายมากที่สุด ฉันต้องการให้ลูกสาวของฉันเติบโตขึ้นมาโดยตระหนักถึงวิธีต่างๆ ในการเป็น ‘ปกติ’”
“เธอรู้ว่าแม่มีรอยแตกลาย และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดังนั้นก็หวังว่ามันจะทำให้ [ลูกสาวของเธอ] มั่นใจว่าจะไม่ต้องกังวลหากเธอมีรอยแตกลายเมื่ออายุมากขึ้น” เธอกล่าวเสริม
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา บริษัทแมทเทล ผู้ผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ ก็ได้ผลิตตุ๊กตาที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบาร์บี้รุ่นดาวน์ซินโดรม รุ่นที่มีสีผิวที่หลากหลายและสะท้อนผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ จากที่เริ่มแรกในปี 1959 ตุ๊กตาบาร์บี้จะออกมาในรูปของหญิงสาวผมบลอด์ ขายาว เอวเล็ก ซึ่งก็ได้รับเสียงวิจารณ์ต่อมาว่าบาร์บี้ไม่ได้แสดงให้เห็นภาพของผู้หญิงในชีวิตจริง
อ้างอิงจาก
