เมื่อความเหนื่อยล้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน เช่นเดียวกับโรค COVID-19 ที่กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว นั่นถึงทำให้ผู้ที่เพิ่งหายป่วยจากโรคติดเชื้อดังกล่าว อาจไม่ได้สังเกตว่าภาวะสมองล้า (Brain fog) หรือความเหนื่อยล้าที่กำลังเผชิญนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอยู่
ถึงจะเป็นเรื่องที่รู้กันบ้างแล้ว แต่การเปิดเผยครั้งใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และเลสเตอร์ในสหราชอาณาจักร ยิ่งอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น เพราะพวกเขาพบว่า การเกิดลิ่มเลือดในสมองและปอด อาจจะสามารถอธิบายถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของผู้ที่ป่วย COVID-19 ซึ่งมีอาการที่เกิดได้ทั่วไป เช่น อาการเหนื่อยล้า และภาวะสมองล้าได้
“ผมลงเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับบทบาทความเป็นผู้นำ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยสมองที่ไม่ต่างกับคอมอืดๆ เครื่องหนึ่ง ที่พยายามดิ้นรนทำงานต่อไป”
นี่เป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับ ไซมอน เรทฟอร์ด นักวิชาการมหาวิทยาลัยในแลงคาเชอร์ ซึ่งเคยอยู่ในภาวะโคม่านานกว่าสองสัปดาห์ จากการติดเชื้อ COVID-19 ในปี 2020 และในปัจจุบันเขาสามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เพียง 60-70% เท่านั้น
ความเจ็บป่วยครั้งนั้นยังคงทิ้งร่องรอยให้เห็น ผ่านปัญหาด้านสมาธิ เช่น ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ รวมทั้งสูญเสียความทรงจำระยะสั้น และกระแสความคิด นั่นทำให้เขาจำเป็นต้องหยุดเส้นทางอาชีพที่เคยช่วยงานตำรวจ เพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องเผชิญ แต่เขายังมองโลกในแง่บวก ว่าอย่างน้อยเขายังรอดชีวิตมาได้
สำหรับการศึกษาครั้งนี้นั้น เป็นการเก็บข้อมูลผู้ป่วย 1,837 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จนพบว่ามีสารประกอบโปรตีนในเลือดสองชนิดเป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือด โดยคาดว่า 16% ของผู้ป่วยกลุ่มตัวอย่างมีปัญหาในการคิด ไม่มีสมาธิ รวมถึงมีปัญหาการจดจำเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนหลังติดเชื้อแล้ว
ทั้งนี้ ทีมวิจัยเน้นย้ำว่า การค้นพบนี้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมก่อน ถึงจะสามารถทดสอบวิธีการรักษาที่เป็นไปได้ รวมถึงระยะเวลาติดตามผลเกิดขึ้นช่วง 6 และ 12 เดือนเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ขาดความไวในการทดสอบไป
อย่างไรก็ดี ในการทำความเข้าใจภาวะสมองล้าหลังการติดเชื้อ ยังคงมีสาเหตุอีกหลายอย่าง ตามความเห็นของพอล แฮร์ริสัน ผู้เขียนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ คริส ไบรท์ลิง ที่ระบุว่า ผลลัพธ์ทางร่างกายและจิตใจทั้งหมดล้วนเป็นผลผสมผสานสุขภาพของแต่ละคน ตั้งแต่ก่อน-ระหว่าง-หลังการติดเชื้อ
อ้างอิงจาก