กลางดึกของวันที่ 6 กันยายน พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ ‘สารวัตรแบงค์’ เสียชีวิตจากการถูกยิง 7 นัดกลางงานเลี้ยงที่บ้านของ ‘กำนันนก’ จนกลายเป็นข่าวเขย่าวงการตำรวจที่ประชาชนจำนวนมากจับตา
นอกจากจะเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น คดีนี้มีประเด็นแปลกที่สร้างความฉงนใจแก่ผู้ตามข่าวไม่น้อย เช่น มีตำรวจร่วมกันซ่อนพยานหลักฐานและช่วยเหลือคนร้าย ผ่านการเอาปืนไปฝัง–เอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งคลอง–ช่วยหลบหนี–ทำลายสถานที่เกิดเหตุ
ไหนจะข้อสังเกตว่า ทำไมตำรวจระดับสูงถึงแห่ไปงานเลี้ยงผู้มีอิทธิพล ทำไมตำรวจในที่เกิดเหตุถึงปล่อยให้ผู้ร้ายหลบหนี มีแรงจูงใจการสั่งยิงว่าเกี่ยวข้องกับส่วยหรือเส้นสายหรือไม่ ตลอดจนการตั้งคำถามว่า เหตุที่ ‘หน่อง’ มือปืนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกน้องของกำนันนกถูกวิสามัญเสียชีวิตเป็นการตัดตอนหรือเปล่า
คดีนี้จึงกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนปัญหาวงการตำรวจไทย และนำมาสู่การถกเถียงกันเรื่องการปฏิรูปตำรวจ เกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์นี้ The MATTER สรุปรวบตึงให้อ่านกัน
1. ราว 4 ทุ่มของวันที่ 6 กันยายน ระหว่างงานกินเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านในจังหวัดนครปฐมของกำนันนก จู่ๆ หน่องใช้อาวุธปืนยิงสารวัตรแบงค์ 7 นัดจนเสียชีวิต และยิงตำรวจอีกรายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
2. ใครเป็นใครในคดีนี้? ‘สารวัตรแบงค์‘ คือสารวัตรวัย 32 ปี ประจำสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เคยอยู่กองปราบปรามและเคยทำคดีสำคัญมาก่อน
ส่วน ‘กำนันนก‘ หรือ ประวีณ จันทร์คล้าย คือกำนัน ต.ตาก้อง จ.นครปฐม ว่ากันว่าเป็นคนใจถึงพึ่งได้ ลูกน้องเยอะ มากบารมี และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งยังมาจากตระกูลที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสารพัด ไม่ว่าจะตัดถนน สร้างสระพาน ขุดคลอง สร้างอาคาร และวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่
ขณะที่ ‘หน่อง ท่าผา’ หรือธนัญชัย หมั่นมาก คือผู้ก่อเหตุลั่นไกสังหารตำรวจ และเป็นลูกน้องคนสนิทของกำนันนก
3. หลังก่อเหตุยิงตำรวจ หน่องและกำนันนกหลบหนีจากงานทันที เช้าวันต่อมา (7 กันยายน) พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับหน่องด้วยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและกระสุนไว้ในครอบครอง ขณะที่กำนันนกโดนหมายจับข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น
กำนันนกเข้ามอบตัวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 7 กันยายน ส่วนหน่องถูกตำรวจวิสามัญฆาตรกรรมเสียชีวิตขณะหลบหนีตอนช่วงเช้าของวันที่ 8 กันยายน ซึ่งตำรวจให้เหตุผลว่า เพราะหน่องต่อสู้ยิงใส่รถตำรวจและมีท่าทีจะหลบหนี
4. ทำไมกำนันยิงสารวัตร? สำนักข่าว Thai PBS รายงานข้อมูลที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์อ้างกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ กำนันนกพูดคุยเรื่องการวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งให้พวกของกำนันที่อยู่ในสายงานสังกัดสารวัตรแบงค์ แต่สารวัตรแบงค์ดันตอบว่า การโยกย้ายจะเป็นไปตามกฎระเบียบของต้นสังกัด
นอกจากนี้ พยานอ้างด้วยว่า มีศึกดวลดื่มเหล้าด้วย แน่นอน กำนันนกเป็นฝ่ายแพ้ จึงยิ่งอาจทำให้เสียหน้าและเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดเหตุสลด
5. มีคนตั้งคำถามว่า ไม่ได้สั่งยิงเพราะประเด็นโยกย้าย แต่ยิงเพราะตกลงเรื่องส่วยรถบรรทุกกันไม่สำเร็จหรือเปล่า ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันกับสื่อว่า กำนันนกสั่งยิงสารวัตรแบงก์และตำรวจอีกนายเพราะไม่พอใจที่ขอย้ายลูกน้องไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องส่วย
6. ที่พีคคือ ในงานกินเลี้ยงมีตำรวจร่วมสังสรรค์กว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นตำรวจภาค 7 และตำรวจทางหลวง แต่กำนันนกและหน่องมือปืนกลับหนีจากที่เกิดเหตุได้ ทั้งยังมีรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน เช่น ปืนหาย เช็ดคราบเลือด ถอดกล้องวงจรปิด เป็นต้น
แปลว่าอะไร? แปลว่ามีตำรวจมีเอี่ยวกับคดีในหลายขั้นตอน! ตั้งแต่ช่วยซ่อนปืน, ทำลายเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด, นำขบวนช่วยผู้รายหลบหนี และทำลายสถานที่เกิดเหตุ คดีนี้จึงกลายเป็นที่จับตายิ่งขึ้นอีก
7. วันที่ 10 กันยายน ศาลจึงอนุมัติหมายจับตำรวจ 6 รายด้วยข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ช่วยเหลือไม่ให้คนร้ายรับโทษ, และซ่อนเร้นพยานหลักฐาน หรือก็คือ พฤติกรรมที่เอาปืนไปฝังดิน และเอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปโยนทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยด้วยว่า ตำรวจในกลุ่มนี้ดันช่วยเอาปืนจากมือหน่องไปซ่อน และคืนเกิดเหตุได้ควบคุมตัวคนร้ายไว้แล้วด้วยนะ แต่ปล่อยตัวในเวลาต่อมา สร้างความมึนงงกับประชาชนว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ
8. ระหว่างการสืบสวนดำเนินไปเข้มข้น พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ฆ่าตัวตายเสียชีวิตที่บ้านพัก เขาเป็นหนึ่งในตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก และถูกพาดพิงว่าเป็นคนโทรตามสารวัตรแบงค์ให้มาบ้านกำนัน กลายเป็นว่าคดีนี้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 3 คน
การเสียชีวิตกระทันหันสร้างความสงสัยให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเผยว่า พยานหลักฐานปรากฎชัดเจนว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่เพื่อนผู้พบศพเล่าด้วยว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการเครียดและเสียใจ
9. นอกจากเรื่องสั่งยิง กำนันยกยังถูกดีเอสไอตรวจสอบธุรกิจ ซึ่งพบว่าธุรกิจของกำนันนกมีการเข้าเสนอและรับงานจากหน่วยงานรัฐหลายกระทรวงในหลายจังหวัด มากกว่า 1,500 โครงการ มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท
ซึ่งดีเอสไอรายงานว่า ในหลายโครงการมีเหตุน่าสงสัยว่าเกิดจากการทำสัญญากับภาครัฐอย่างไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรมด้วย จึงดูเหมือนว่าเครือข่ายกำนันนกจะค่อยๆ ถูกคลี่ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
10. แม้คดียังไม่สิ้นสุด แต่ก็เป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการกากีที่ใครก็ต่างแซว่าสะท้อนวงการตำรวจไทยได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในแง่ของส่วย เส้นสาย ระบบอุปถัมภ์ และการอยู่ใต้ผู้มีอิทธิพล จึงเป็นเหตุให้หลายคนเรียกร้องให้ปฏิรูปวงการตำรวจเสียที
อ้างอิงจาก
https://www.thansettakij.com/news/general-news/575558
https://www.thaipbs.or.th/news/content/331424
https://www.thaipbs.or.th/news/content/331388
https://www.thaipbs.or.th/news/content/331550
https://www.thaipbs.or.th/news/content/331523
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4178337
https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1087921
#กำนันนก #สารวัตรแบงค์ #ยิงตำรวจ #TheMATTER