หลังจากเมื่อเช้าวันนี้ (8 ตุลาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อิสราเอลว่า สถานทูตไทยที่อิสราเอลคาดตอนนี้มีคนไทยเสียชีวิต 1 คน และถูกจับตัว 11 คน แต่ย้ำว่า พร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี The MATTER จะมาสรุปเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล จนต้องประกาศภาวะสงครามให้อ่านกัน
เล่าก่อนว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ (7 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ หรือช่วงเที่ยงตามเวลาประเทศไทย กลุ่มฮามาส (Hamas) ที่อยู่ในดินแดนปาเลสไตน์เริ่มยิงขีปนาวุธจากเมืองกาซาประมาณ 5,000 ลูก ถล่มเข้าไปในประเทศอิสราเอล ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้นเพียง 20 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสยังส่งกองกำลังติดอาวุธที่ใช้รถเกาะฝ่าด่านลวดหนามเพื่อบุกเข้าไปโจมตีเมืองต่างๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ตั้งแต่กาซา จนถึงกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงนครเยรูซาเรม
จนกระทั่ง เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศภาวะสงครามหลังการโจมตีไม่กี่ชั่วโมง โดยเขาถือว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
ทั้งนี้ ตอนนี้เกิดคำถามมากมายว่าทำไมระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศไอเอิร์นโดม (Iron Dome) ของอิสราเอลถึงสกัดการโจมตีในครั้งนี้ได้ และทำไมหน่วยข่าวกรองและหน่วยปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อว่ามีฝีมือที่ดีที่สุดโลกถึงไม่ทราบปฏิบัติการครั้งนี้ของกลุ่มฮามาส ที่มีชื่อเรียกว่าปฏิบัติการ ‘อัล-อักซอฟลัด’
นอกเหนือจากประเด็นนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนยังสงสัยว่าทำไมกลุ่มฮามาสถึงเปิดฉากโจมตีอิสราเอล โดยเราจะอธิบายให้กระชับๆ ก่อนว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการตอบโต้การกระทำของทางการอิสราเอล ที่ก่อนหน้านี้ได้บุกมัสยิดอัลอักซอในนครเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม และการปฏิบัติอันเลวร้ายต่อนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล
อย่างไรก็ดี ด้านกองทัพอิสราเอลระบุว่า ได้ส่งเครื่องบินรบหลายสิบลำ ทำการโจมตีกลุ่มฮามาสทางอากาศในฉนวนกาซา รวมถึงฐานบัญชาการของฮามาส 1 แห่งแล้ว นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลได้ระดมทหารกองหนุนอีกหลายหมื่นนาย เพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังการโจมตีตอบโต้กันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทางการอิสราเอลและปาเลสไตน์สามารถระบุยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 232 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,600 คน ขณะที่กองทัพของอิสราเอล ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 200 คน และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 1 พันคน
แล้วทำไมคนไทยถึงถูกจับ?
เนื่องจากแรงงานไทยเข้าไปทำภาคงานการเกษตรในอิสราเอลจำนวนมาก ดังนั้นนอกจากกลุ่มฮามาสจะจับตัวชาวอิสราเอล ก็จับแรงงานไทยไปด้วย ซึ่งคาดว่าพวกเขาถูกนำตัวข้ามไปฝั่งฉนวนกาซา ทำให้ตอนนี้ทางอิสราเอลมีความยากลำบากในการตอบโต้หรือช่วยเหลือ เพราะมีตัวประกัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ได้สั่งการด่วนให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบิน กำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล และช่วงเช้าของวันนี้ นายกฯ ระบุว่า ได้พูดคุยกับทางสถานทูตอิสราเอลให้ช่วยฝากฝังคนดูแลคนไทยด้วย และเสริมว่ายังได้พูดคุยกับสถานทูตประเทศไทยประจำอิสราเอลแล้วด้วย โดยพวกเขาแจ้งว่า คนไทยอาจเสียชีวิต 1 คน และถูกจับตัวอีก 11 คน แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นข้อมูลอย่างทางการ “เครื่องบินกองทัพอากาศเตรียมพร้อมแล้ว แต่น่านฟ้าปิดอยู่ และเรายังมีคณะแพทย์ที่จะเดินทางไปด้วย ซึ่งเราเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง” นายกฯ ระบุ
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ที่กระทรวงต่างประเทศ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.กระทรวงต่างประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอลว่า “ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ทางรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขณะนี้มีข้อมูลว่า มีผู้บาดเจ็บ 8 คน รอการช่วยเหลือจากกองทัพอีก 3 คน เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลแล้ว 5 คน เสียชีวิต 1 คน และถูกจับไป 11 คน ซึ่งขณะนี้ทางสถานทูตฯ พยายามติดต่อกับทางอิสราเอล แต่ขณะนี้กองทัพอิสราเอลยังไม่สามารถเข้าถึงในหลายๆ พื้นที่ได้ จึงไม่อาจจะยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ”
ไม่เพียงเท่านั้น ทางสถานทูตไทยประจำอิสราเอลระบุว่า “สถานการณ์ตอนนี้ยังตึงเครียด อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลสามารถยึดพื้นที่กลับมาได้บางส่วน แต่ไม่ใช่พื้นที่ที่แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งแรงงานที่ถูกจับตัวไป ทางสถานทูตไม่สามารถติดต่อได้ ทำได้แค่รอให้กองทัพเคลียพื้นที่ให้ได้ก่อน”
รองนายกฯ กล่าวปิดท้ายว่า “ต้องให้มีความชัดเจน ตอนนี้เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าทางการเมืองต่างประเทศเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเราไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่แค่ประณามความรุนแรงและสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทยเท่านั้น”
อ้างอิงจาก