นับเป็นวันที่ 8 แล้ว มีการปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยวันนี้ (9 ตุลาคม) ‘P-move’ หรือขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ส่งตัวแทนจำนวน 30 คน เพื่อเจรจากับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มอบอำนาจในการพูดคุยและเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ
ในเวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา P-move ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาวัดระยะ 50 เมตร บริเวณริมรั้วรอบข้างทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีคำสั่งประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่วันที่ 7 ตุลาคมจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม
ภายหลังจากการประชุม ร้อยเอกธรรมนัสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะนำผลการเจรจาวันนี้ เข้าไปที่ประชุม ครม.รับทราบ และมีข้อสรุปว่าจะตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาของทางกลุ่ม โดยมีภูมิธรรม เป็นประธาน และเขานั่งตำแหน่งรองประธาน
จากนั้น ทางกลุ่ม P-move ก็ได้ออกมาแถลงข่าวถึงการเจรจาว่า ผู้แทนรัฐบาลรับหลักการข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้าน รวมถึงปัญหารายกรณี ปัญหาเร่งด่วน ปัญหาการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชน
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มยังเรียกร้องเพิ่มเติม ให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ P-move ที่ต้องมีรักษาการนายกฯ ลงนามแต่งตั้งเป็นอย่างน้อย จากนั้นก็ต้องดำเนินการเปิดประชุมคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาทุกเรื่องอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด แล้วนำเรื่องทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้ง
“ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันทางนโยบายว่าการกลับบ้านไปของเราครั้งนี้จะไม่มีใครต้องถูกข่มขู่ คุกคาม ดำเนินคดี และแย่งยึดที่ดินทรัพยากรอีก รวมถึงมีช่องทางให้เราได้ติดตามและร้องเรียนความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต” P-move ระบุ
P-move เรียกร้องอะไร?
1. แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง สสร . 100%
2. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เลือกตั้งผู้ว่าฯ
3. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เร่งนิรโทษกรรมให้ประชาชน
4. กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ปกป้องพื้นที่เกษตรกรรรมของทุกคน
5. หยุดมรดก คสช. ยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า ทบทวนนโยบายคาร์บอนเครดิต หยุดฟอกเขียวกลุ่มทุน ยึดที่ประชาชน
6. กระจายอำนาจการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน
7. กฎหมายคุ้มครองชาติพันธุ์ คืนสิทธิคนเท่ากัน อย่างเท่าเทียม
– ขับเคลื่อนมติ ครม.ชาวเล 2 มิถุนายน 2553, มติ ครม.กะเหรี่ยง 3 สิงหาคม 2553
– ผลักดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์
8. แก้ไขปัญหาสิทธิสถานะบุคคลให้เสร็จภายในปี 2567
9. สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
10. จัดสรรทีดินรัฐให้ประชาชนอยู่อาศัย หยุดใช้มาตรการไล่รื้อชุมชน
ทำไมต้องเรียกร้อง?
ข้อเสนอดังกล่าว ทางกลุ่ม P-move ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ระบุว่าเป็นเจตจำนงอันแรงกล้าของคนจนที่ต้องอยู่ในแผ่นดินนี้อย่าง “มีสิทธิ มีศักดิ์ศรี อยู่ในสังคมที่มองเห็นความเป็นมนุษย์ของพวกเราผู้ถูกอำนาจกฎหมายและนโยบายกดทับ”
“การบีบคั้นให้เราต้องส่งต่อความจนจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งนั้นควรจบสิ้น ด้วยเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนสามารถมีส่วนช่วยสร้างสรรค์สังคมประชาธิปไตยที่โอบรับคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ มิใช่สังคมที่เอื้อต่ออภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยให้กดขู่ ขูดรีด เบียดขับรุกไล่ และกัดกินจิตวิญญาณให้เรามิอาจกล้าฝันถึงชีวิตในสังคมที่ดีกว่านี้” กลุ่ม P-move ระบุ
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวก็มีมาตั้งแต่ในปี 2562 โดยปัญหานี้ เป็นปัญหาเรื้อรังสั่งสมมาหลายยุคสมัย และทางกลุ่มพร้อมจะปักหลักชุมนุม ณ ทำเนียบรัฐบาลอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้ข้อยุติ เพื่อที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย
อย่างไรก็ดี วันนี้ ทางกลุ่มยังระบุเพิ่มเติมว่า จะยังไม่เลิกชุมนุมและยังไม่มีกำหนดการย้าย ซึ่งจะต้องดูพรุ่งนี้ และจะประเมินเรื่องการชุมนุมอีกทีในสัปดาห์หน้า
อ้างอิงจาก